ข่าว

รวบยกแก๊ง อุ้มกลางงานบวชวัดย่านตลิ่งชัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบแก๊งอุ้มกลางงานบวช คลุมหัวเหยื่อหิ้วซ้อมน่วม สารภาพเข้าใจผิด-ล่าอีก 1

 

               ตร.ตลิ่งชันตามรวบ 4 ชายฉกรรจ์ เร่งล่าอีก 1 แก๊งอุ้มกลางงานบวช ก่อเหตุอุกอาจวัดน้อยใน ปืนจี้ ใส่กุญแจมือ เอาผ้าคลุมหัวหิ้วเหยื่อรุมซ้อมน่วมที่สมุทรสาคร สารภาพอ้างเข้าใจผิด 
 

อ่านข่าว ตร.หิ้ว 4 คนร้ายแก๊งอุ้มเหยื่อวัดน้อยในไปทำแผน

 

               จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ไฮโซ ช๊อป” ได้โพสต์คลิปวิดีโอปรากฏภาพของกลุ่มคนร้าย 4 คน ขับรถกระบะสีขาวมาขวางหน้ารถ ก่อนจะฉุดเอาตัวนายเต้ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ขึ้นรถกระบะไป พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ญาติพี่น้องและเพื่อนที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือพร้อมยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางหลบหนี

 

               ซึ่งก่อเหตุอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ ภายในงานบวชวัดน้อยใน ย่านตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นน้องสาวของเหยื่อ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

               ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ 4 คนได้แล้ว ประกอบด้วย นายเอกพล หรือ เอก เอี่ยมวิสูตร อายุ 33ปี นายเชิดศักดิ์ หรือ อาท คุ้มภักดี อายุ 34 ปี นายจตุพร หรือ นิค ศรีสวัสดิ์ อายุ 30 ปี และนายนิธิกร หรือ อู๋ พวงสุนทร อายุ 30 ปี

 

               พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. พร้อมลูกกระสุนจำนวน 5 นัด อาวุปืนปลอมกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก รถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีขาว ทะเบียน 6 กผ 7701 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีกรายและขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ ทราบชื่อคือนายฟาฮิส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี

 

               ต่อมา พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กได้อธิบายเรื่องราวทำนองว่ากลุ่มคนร้ายเข้ามาลักพาตัวนายเต้ อายุ 33 ปี ลูกชายร้านขายอาหารทะเล ขณะไปร่วมงานบวชที่วัดน้อยใน แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. โดยระหว่างพาตัวไปก็ได้ล็อกแขนและยังลงมือทำร้ายร่างกาย ใช้ปืนจ่อหัว ซึ่งครอบครัวแจ้งความเอาไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน

 

               ก่อนที่กลุ่มคนร้ายที่อุ้มผู้เสียหายได้ติดต่อทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กของผู้โพสต์เรื่องราวซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียหาย เพื่อขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าอุ้มมาผิดตัว และจะจ่ายเงินให้ 40,000 บาท แต่ทางครอบครัวไม่ยอมจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้ง 4 คน และสาเหตุที่กลุ่มผู้ต้องหาลงมืออุ้มและทำร้ายร่างกายในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายเอก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้เสียหายถูกทำร้ายก่อน จึงได้รวบรวมพรรคพวกตามมาล้างแค้น

 

               ขณะที่น้องสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า ระหว่างที่นายเต้ซึ่งเป็นพี่ชายมาร่วมงานบวช จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คน ลงจากรถกระบะพร้อมอาวุธปืนครบมือ ตรงมาถามหาพี่ชายและยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ ก่อนนำตัวพี่ชายขึ้นรถไปด้วย จากนั้นผู้ก่อเหตุยังโทรกลับมาข่มขู่ว่า หากแจ้งความจะทำร้ายพี่ชาย

 

               อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ เคยเห็นหน้าค่าตาและรู้จักชื่อพี่ชาย แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกัน จึงพยายามถามว่าจับพี่ชายไปทำไม กลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างว่าพี่ชายไปสั่งให้คนรู้จักในเรือนจำทำร้ายน้องชายของผู้ก่อเหตุที่ติดคุกในเรือนจำเดียวกัน แต่ตนไม่เชื่อ เพราะพี่ชายไม่รู้จักกับน้องผู้ก่อเหตุ

 

               หลังจากนั้นจึงขอให้คืนตัวพี่ชายมาและจะไม่เอาเรื่อง แต่เมื่อผู้ก่อเหตุพาพี่ชายมาส่งคืนกลับพบว่าถูกทำร้ายจนหัวแตก ใบหน้าและร่างกายบอบช้ำ ผู้ก่อเหตุพยายามจะขอจ่ายค่าเสียหาย 40,000 เพื่อให้ยอมความ แต่ตนเองและครอบครัวไม่ยินยอม และขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

               ด้านนายทวีศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี บิดาของเหยื่อที่ถูกอุ้ม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สอบถามลูกชาย ซึ่งทราบว่าช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ได้ไปช่วยงานบวชเพื่อนที่วัด แล้วถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถกระบะเข้ามา จากนั้นคนร้ายชักอาวุธปืนขึ้นมายิงข่มขู่จำนวน 3 นัด โดยคนร้ายได้ลากตัวขึ้นรถใส่กุญแจมือและนำถุงผ้ามาคลุมหัวจึงไม่ทราบว่าเอาตัวไปที่ไหนก่อนจะถูกซ้อม และถูกนำตัวกลับมาปล่อยตัวที่โรงพักตลิ่งชันในเย็นวันเดียวกัน โดยผู้ก่อเหตุอ้างภายหลังว่าทำร้ายผิดตัว

 

               นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอยืนยันทั้งตนและลูกชายรวมถึงชาวบ้านในละแวกนั้น ต่างไม่รู้จักกลุ่มผู้ก่อเหตุเลย ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันด้วย สงสัยว่าต้องเป็นกลุ่มไหน มีดีอะไร จึงกล้าลงมือกระทำอุกอาจเช่นนี้ แม้จะเป็นบริเวณในวัดก็ตาม ส่วนลูกชายประกอบธุรกิจค้าขายอาหารทะเลในตลาดสด ไม่มีหนี้สิน หรือเรื่องขัดแย้งกับใคร

 

               สำหรับอาการบาดเจ็บนั้น แพทย์ระบุว่ามีแผลฟอกช้ำภายในและใบหน้าแตก เหมือนถูกอาวุธตีและลูกชายยังรู้สึกขวัญเสียต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่อาจเล่าเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ขณะที่ตำรวจยังไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ตอนนี้ลูกชายยังหวาดกลัว และเกรงว่าคนร้ายอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่จะมาทำอันตรายอีกหรือไม่

 

               ทั้งนี้มีรายงานข่าวระบุว่า มูลเหตุครั้งนี้เกิดจากกลุ่มของผู้เสียหายและกลุ่มของผู้ที่ก่อเหตุเคยทำธุรกิจสีเทาร่วมกันก่อนจะเกิดความขัดแย้งและมีการสั่งการให้ทำร้ายร่างกายกันมาก่อนหน้านี้ในพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาลบางพลัด

 

               กระทั่งเช้าวานนี้ฝ่ายของผู้ต้องหาคือ นาย ต. ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้สั่งให้กลุ่มของผู้ต้องหามาอุ้มตัวไปทำร้ายเพื่อเป็นการเอาคืน อย่างไรก็ตามแนวทางการสืบสวนยังต้องพิสูจน์ทราบอีกครั้ง และต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย

 

               เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหารวม 5 ข้อหา 1.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต 2.ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวไป 3.ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน 4.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำโดยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

 

               และ 5.ร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

 

               จากนั้นได้นำตัวไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาตลิ่งชัน และเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 ราย มาดำเนินคดีต่อไป

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ