แฉปม จ.ส.อ.คลั่ง ส่วนต่างค่าที่ "ล่องหน"

 

               สามีเหยื่อรายแรก เปิดปม “จ่าสิบเอก” คลั่งกราดยิงไม่เลือก ชี้ขัดแย้งค่านายหน้าที่ดิน 5 หมื่น นัดทวงหลายรอบแล้วยังไม่ได้ จนสุดท้ายตกลงกันไม่ได้ชักปืนยิงระห่ำ

 

อ่านข่าว วิสามัญทหารคลั่ง ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก

 

               ความคืบหน้ากรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 63 ปี เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา และยังยิงนายพิทยา แก้วพรม บาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

 

               เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปในขโมยอาวุธสงครามไล่กราดยิงไปตามเส้นทางจนถึงห้างเทอร์มินอล 21 โคราช จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 คนและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น

 

               ล่าสุด นายนฤพล มิตรจันทร์ สามีของนางอนงค์ ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ถึงสาเหตุที่คาดว่าทำให้ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยนายนฤพลเล่าว่า ภรรยาของตนทำโครงการจัดสรรที่ดิน สร้างบ้านพักขายให้บรรดาทหาร โดยมีนายหน้าเป็นตัวกลางทำหน้าที่ขายและจดจำนองให้ลูกค้า 

 

               หลังจากจดจำนองมีเงินส่วนเกินที่ต้องคืนลูกค้าจำนวนหนึ่ง จึงส่งมอบเงินให้นายหน้าเป็นตัวแทนนำเงินไปส่งคืน จำนวน 5 หมื่นบาท แต่คาดว่านายหน้าคงคืนเงินให้ไม่หมด ทำให้ จ.ส.อ.จักรพันธ์ทวงถามอยู่หลายครั้ง และคาดว่านางอนงค์ยังไม่ยอมจ่ายเงินคืน จึงนัด จ.ส.อ.จักรพันธ์ และนายหน้ามาเจรจาที่บ้านพัก โดยขอให้ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ มาเป็นพยาน

 

               “นายหน้ากับคนยิงเป็นเพื่อนกัน ก็พาไปดื่มกินกัน พูดกันมา 2-3 เดือนแล้ว คนยิงที่เป็นลูกค้า ก็ทวงเงิน 5 หมื่น ที่ยังค้างอยู่กับทางนายหน้า ซึ่งคาดว่านายหน้ายังไม่ได้ให้เขาทั้งหมด”

 

               นายนฤพล กล่าวว่า ภรรยาจึงนัด จ.ส.อ.จักรพันธ์ และนายหน้า ให้มาเจรจากันที่บ้านพัก โดยขอให้ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ มาเป็นพยานเพราะมีความใกล้ชิดกับครอบครัว ผู้พันเคยมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านตนตั้งแต่เป็นนายทหารใหม่ๆ จนได้เป็นผู้พัน ก็มาร่วมพูดคุยกันเรื่องนี้ ให้ผู้พันเป็นสักขีพยาน แต่ผู้ก่อเหตุก็ยิงหมดเลย

 

               ซึ่งเรื่องเงินตอนนั้นเป็นแสน แต่คืนไปหมดแล้ว เหลือ 5 หมื่นที่นายหน้า ยืนยันว่าจ่ายเงินให้นายหน้าไปแล้ว ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทำให้ไม่รู้ว่ามีการพูดคุยกันอย่างไรจึงเกิดเหตุขึ้น ทราบเพียงว่าภรรยาถูกยิงเป็นคนแรก ตามด้วย พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ส่วนนายหน้าวิ่งหนีจึงถูกตามไล่ยิงเข้าข้างหลังแต่ไม่เสียชีวิต

 

               หลังจาก จ.ส.อ.จักรพันธ์ ลงมือยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ เสียชีวิต ได้เข้าไปขโมยอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และใช้อาวุธยิงทหารเวรจนได้รับบาดเจ็บ

 

               จากนั้นได้ขับรถฮัมวีหลบหนีออกด้านหลังค่าย ผ่านไปทางวัดป่าศรัทธารวมและได้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่มาสกัดจับ รวมทั้งชาวบ้านในละแวกนั้น จากนั้นเข้าไปที่ห้างเทอร์มินัล 21 โคราช จนกระทั่งถูกวิสามัญฆาตกรรม

 

               มีรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เป็นชาวชัยภูมิ อยู่ที่บ้านหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ เป็นนักเรียนโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล รุ่นที่ 106 เป็นนักเรียนนายสิบทหารบกรุ่นที่ 10/49

 

               มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืน โดยพบว่าในเฟซบุ๊กของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ มีการโพสต์คลิปวิดีโอขณะซ้อมยิงปืนโดยใช้ปืนยาวติดกล้อง