ข่าว

อย่าช่วยกันสร้าง ปีศาจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อย่าช่วยกันสร้าง ปีศาจ บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวัน

 

 


          ถือเป็นการปิดคดีอุกฉกรรจ์ได้อย่างรวดเร็วสำหรับคดีฆ่าโหด 3 ศพชิงทองใน จ.ลพบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเพียง 14 วันในการจับกุม “ประสิทธิชัย เขาแก้ว” หรือ ผอ.กอล์ฟ คนร้ายที่่ก่อเหตุในคดีดังกล่าว ทั้งนี้จากการเปิดแถลงข่าวนำอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้ต้องหายืนยันว่าปัจจัยในการก่อเหตุชิงทองมาจากปัญหาส่วนตัวและหนี้สิน ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดอย่างนั้น พร้อมย้ำว่าการก่อเหตุร้ายเพียงแค่มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์สินเท่านั้น ไม่มีนัยเรื่องใดแอบแฝง
     

อ่านข่าว...  เปิดคำสารภาพ ผอ.โรงเรียน ปล้นร้านทองลพบุรี

 

 

 

          แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปิดคดีนี้ไปได้แล้ว แต่ส่วนตัวยังมีสิ่งนึงที่ทำให้รู้สึก “ขมคอ” ไปกับเรื่องราวทมิฬที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งไม่รู้ว่า “สังคมไทยมาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร และจะเป็นไปอย่างนี้อีกนานเท่าใด” เหตุการณ์ ผอ.กอล์ฟ ฆ่าโหดชิงทองเป็นเรื่องราวที่ประชาชนให้ความสนใจและจับตามองอย่างยิ่ง เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญเกินกว่าใครในโลกจะรับได้กับพฤติกรรมโหดเหี้ยมของคนร้ายที่ไม่ต่างจากอมนุษย์หลุดจากอเวจีขุมใด แต่ในความสนใจใคร่รู้ที่ผสมปนเปไปกับอารมณ์โกรธแค้นต่อพฤติกรรมอันเหี้ยมโหดของผอ.หนุ่มผู้มีชีวิตค่อนข้างสมบูรณ์แบบนั้น บางครั้งเราอาจหลงลืมไปว่าการแสดงความคิดเห็น หรือการกระทำใดๆ ที่ออกไปสู่สาธารณะอาจไปกระทบสิทธิของญาติพี่น้องและคนใกล้ตัวของบุคคลที่เกี่ยวข้องทางคดีอย่างไม่รู้ตัว


          ภายหลังการบุกรวบฆาตกรร้ายพบว่าผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียบางกลุ่มมีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะก่นด่าว่าร้าย พร้อมขุดคุ้ยตีแผ่ประวัติภรรยา พ่อแม่ เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งการเหน็บแนมในลักษณะพาดพิงไปถึงอาชีพการงานและสถาบันการศึกษาของผู้ต้องหาในลักษณะที่ไม่เหมะสมจนกลายเป็นเรื่อง “มันปาก” หรือแม้กระทั่งการตั้งข้อสมมุติฐานแบบจับแพะชนแกะว่าพนักงานสาวร้านทองเหยื่อกระสุนมรณะอาจมีความสัมพันธ์บางอย่างกับผอ.กอล์ฟ และที่ร้ายลึกจนเกินจะรับไหวคือการนำภาพของภรรยาของคนร้ายมาวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงส่อเสียดย่ำยีทางเพศ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง และสมควรได้รับการประณามหยามเหยียดกลับไปเช่นกัน

 

 


          จริงอยู่ในโลกของโซเชียลมีเดียที่มันเปิดกว้างไร้ขอบเขตทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ แต่ในคำว่า “อะไรก็ได้” มันต้องไม่ไปกระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่สามที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ดังนั้นหากใครก็ตามที่กำลังคิดจะแสดงความคิดอันแสนร้ายกาจด้วยข้อความดุเดือดเลือดพล่านแต่เต็มไปด้วยความ “ขาดสติ” ขอให้ฉุกคิดกันนิดนึงว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นการ “ล้ำเส้น” และไปละเมิดสิทธิของญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิดของบุคคลที่คุณกำลังฟาดฟันหรือไม่...


          การหยิบข้อมูลมั่วๆ หรือการนำความคิดเห็นกากๆ จากโลกโซเชียลมีเดียมาเป็นประเด็นส่งต่อกันไปมาโดยปราศจากการตรวจสอบถึงแหล่งที่มาที่ไปเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังอย่างมาก เพราะสิ่งเหล่านี้มันเปรียบ “มีดอันแหลมคม” ที่คอยเชือดเฉือนผู้คนให้อาสัญมานับต่อนักแล้ว ..ดังนั้นหากเราเผลอตัวละเลยหรือหลงลืมไปกับสิ่งเหล่านี้ก็คงไม่ต่างกับการช่วยกันสร้าง “ปีศาจร้าย” มาซ้ำเติมเหตุร้ายต่างๆ ที่มันก่อเกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้...ตรงนี้ต่างหากคือสิ่งสำคัญ ?

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ