ข่าว

อิหร่านประท้วง ฮือไล่ผู้นำสูงสุด ปมยิงบินยูเครน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อิหร่าน ประท้วง ฮือไล่ ผู้นำสูงสุด หลังยอมรับยิงเครื่องบินยูเครน คร่า 176 ชีวิต

       สถานการณ์ในอิหรานเริ่มตึงเครียดอย่างหนักหลังจากทางการอิหร่านออกมายอมรับความว่า อิหร่านเป็นผู้ก่อเหตุยิงเครื่องบินโดยสาร 737-800 เที่ยวบินพีเอส 752 สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส (ยูไอเอ) ตกใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติเตหะราน เป็นเหตุให้ผู้อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด 176 คน
 

       โดยทางการอิหร่านอ้างว่าเที่ยวบินดังกล่าวบินขึ้นจากสนามบินอิหม่าม โคไมนี ภายใต้สภาพเงื่อนไขอ่อนไหวและในขณะหมุนตัวเครื่องบินได้เข้าไปอยู่ในระยะใกล้กับศูนย์ทหารอ่อนไหวของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ที่ระดับความสูงและเงื่อนไขการบินคล้ายเป้าหมายทางอากาศของศัตรู เครื่องบินจึงถูกยิงโดยไม่เจตนา โดยกองทัพจะยกระดับระบบของตนเองเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำในอนาคต และผู้ที่กระทำผิดพลาดในโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะต้องถูกดำเนินคดี

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวอิหร่านหลายพันคนชุมนุมกันตามท้องถนนในกรุงเตหะรานเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่ปกปิดความจริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเที่ยวบินพีเอส 752 สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส (ยูไอเอ) โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้ทางการชดใช้ความผิดให้มีมาตรการลงโทษผู้กระทำผิด รวมทั้งจ่ายค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ออกมาชุมนุมประท้วงที่มหาวิทยาลันชาริฟ และมหาวิทยาลัยอามีร์ คาบีร์ ทั้งนี้ผู้ประท้วงตะโกนด่าว่ารัฐบาลที่โกหกในตอนแรกว่าไม่ได้เป็นผู้ยิงเครื่องบินลำดังกล่าว ก่อนจะยอมจำนนต่อหลักฐานและยอมรับในที่สุด ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านลาออกอีกด้วย นอกจากนี้ผู้ประท้วงบางส่วนประกาศว่า “ขอให้ความตายมาสู่เผด็จการ” และมีหนึ่งในวิดีโอคลิปที่เผยแพร่มีผู้ประท้วงตะโกนว่า “คาเมเนอีมีความละอาย ออกนอกประเทศไป”

      สำนักข่าวอิหร่าน ฟาร์ส รายงานว่า มีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ย้ายไปอาศัยในแคนาดารวมอยู่ในเหยื่อผู้เสียชีวิตและยังรายงานว่าตำรวจอิหร่านได้สลายการชุมนุมของนักศึกษาที่เข้าไปและปิดกั้นถนนเส้นหลัก ซึ่งความโกรธแค้นของคนเหล่านี้นั้นถูกทำให้คุโชนส่วนใหญ่มาจากกองกำลังความมั่นคงอิหร่านที่อ้างว่าล็อกเป้าหมายไปที่เครื่องบินโดยสารอย่างไม่ตั้งใจและชี้ไปที่ระบบเรดาร์และความกลัวของการเคลื่อนไหวของสหรัฐ

      มีรายงานว่าเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรเพียงแค่ไปร่วมพิธีไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามเป็นการประท้วง แต่กลับถูกจับกุมในระหว่างเดินทางกลับสถานทูต ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้สหราชอาณาจักร นายโดมินิค ราอับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ออกมาประณามการจับกุมเอกอัครราชทูตของสหราชอาณาจักรในเตหะรานโดยไม่อธิบายถึงเหตุผลที่ชัดเจนใดๆ นับเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

    ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตในภาษาฟาร์ซีและภาษาอังกฤษพร้อมกัน เรียกร้องให้เตหะรานอนุญาตให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนสามารถรายงานข้อเท็จจริงจากพื้นที่ได้ พร้อมเตือนอิหร่านว่า “โลกกำลังจับจ้อง” โดยทรัมป์ กล่าวว่า ประชาชนชาวอิหร่านที่กล้าหาญและทนทุกข์มายาวนาน ขอยืนเคียงข้างพวกคุณนับตั้งแต่เริ่มต้นของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และรัฐบาลสหรัฐจะยังคงยืนเคียงข้างพวกคุณต่อไป พวกเราติดตามการประท้วงของพวกคุณอย่างใกล้ชิด และได้รับแรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของพวกคุณ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ