ข่าว

นาทีเผชิญหน้าอดีตทาสบำเรอกามยาซีดิเจอไอเอสผ่านจอทีวีในอิรัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลิปที่กำลังไวรัลในโลกโซเชียล อดีตเด็กหญิงชนกลุ่มน้อยยาซีดิเผชิญหน้ากับไอเอสที่เคยจองจำเธอเป็นทาสบำเรอกาม 

 


อัชวอค ฮัจจิ ฮาหมิด เป็นหนึ่งในเด็กหญิงชาวยาซีดิ ที่ถูกกลุ่มจับตัวไปหลังกลุ่มไอเอสบุกหุบเขาซินจาร์ ชุมชนใหญ่ของชนกลุ่มน้อยในอิรักเมื่อปี 2557 จากนั้น เธอถูกขายเป็นทาส และถูกล่วงละเมิดในวัยเพียง 14 ปี 

 

 


ต่อมา เธอสามารถหลบหนีเงื้อมมือไอเอสและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเยอรมนีในปี 2558 แต่มีชีวิตสงบสุขได้ไม่นาน  ฮาหมิดเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า เธอได้เจอกับ อาบู ฮูมาม คนที่ข่มขืนเธออย่างไม่นึกไม่ฝันบนถนนในเมืองชตุทการ์ท  เมื่อปี 2559 และเจออีกครั้งในปีที่แล้ว  เขายังข่มขู่เธอด้วยว่า รู้ว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน หญิงสาวบอกในตอนนั้นว่าต้องการกลับไปอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอิรักกับพ่อของเธอมากกว่า 

 

นาทีเผชิญหน้าอดีตทาสบำเรอกามยาซีดิเจอไอเอสผ่านจอทีวีในอิรัก

ฮาหมิดกับพ่อ ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในอิรัก 

 


หลังจากนั้น ฮูมามถูกจับกุมและเวลานี้ อยู่ในความควบคุมของหน่วยข่าวกรองอิรัก แต่ไม่มีรายละเอียดว่าจากเยอรมนี เขาไปอยู่ในอิรักได้อย่างไร แต่นั่นเป็นที่มาของการเผชิญหน้าผ่านจอโทรทัศน์ของเหยื่อกับผู้กระทำ ออกอากาศทาง   Al-Iraqiya Network  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นไวรัลในเวลานี้  หลังจากผู้ใช้ทวิตเตอร์  Ezidi  บัญชีทวิตเตอร์ที่ทวีตชะตากรรมของชาติพันธุ์ยาซีดิ นำคลิปจากทีวีอิรัก มาเผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์  เนื้อหาในคลิปแปลโดยสถาบันวิจัยสื่อตะวันออกกลาง ( MEMRI ) 

 

 

 

ทีวีอิรักสัมภาษณ์ ฮาหมิด  กับอาบู ฮัมมาน แยกกัน 

 


ฮาหมิด เล่าว่า เธอกับครอบครัวถูกพาไปที่ซีเรีย เราวิตกมาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะฆ่าเราไหม แต่ที่ยังรู้สึกอุ่นใจอย่างน้อยได้อยู่ด้วยกัน หรืออาจจะตายด้วยกัน แต่แล้ว พวกเขาพรากเรา แยกเด็กหญิงอายุเกิน 9 ขวบ จำนวนประมาณ 300-400 คน ออกจากญาติๆ นำตัวไปที่เมืองโมซุล ประเทศอิรัก อยู่ที่นั่น 3 วัน ก่อนถูกใช้เป็นของขวัญ หรือขายในราคาถูกๆ หลายคนถูกส่งไปซีเรีย คนที่ยังอยู่ ถูกนำไปให้กับนักรบไอเอส ที่เคยร่วมบุกหุบเขาซินจาร์   ส่วนเธอซึ่งตอนแรกอยู่กับพี่น้อง 6 คน สุดท้ายเหลือแต่ฮาหมิดกับน้องสาวอีกคนที่อยู่ในโมซุล

 


อาบู ฮูมาม เลือกเธอด้วยวิธีการเสี่ยงทาย เมื่อเลือกได้ เขาดึงผมเธอขึ้นมา  เธอไม่คิดว่าพวกเขาจะข่มขืน  เพราะอายุแค่ 14 ปี แต่พวกเขาสวมกุญแจมือและข่มขืนพวกเราอย่างทารุณ 

 

 

ฮาหมิดเล่าว่า อาบู ฮูมาม สัญญาว่าจะปล่อยเธอไป แต่แล้วก็ทุบตีและข่มขืนซ้ำหลายครั้งต่อวัน ฉันยังเด็ก ไม่รู้อะไรเลย ฉันพยายามต่อสู้และผลักเวลาที่เขาพยายามจะข่มขืน ไม่มีวันไหนเลยที่ผ่านไปโดยไม่ถูกทุบตี 3-4 ครั้ง”  

 


“ต่อให้ฉันมีโอกาสฆ่าเขา ฉันก็ไม่อยากทำให้มือสกปรก แต่ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทำสิ่งถูกต้องให้แก่พวกเรา ไม่ใช่เฉพาะเธอ หลังจากเธอแล้ว ยังมีเด็กหญิงยาซีดิอีกมากมายที่เขาข่มขืน” 

 


ส่วนอาบู ฮูมาม ที่สัมภาษณ์แยกกับเหยื่อ ระบุว่า เขาได้ตัวเธอในคืนหนึ่งและข่มขืนในวันรุ่งขึ้น เธอขัดขืน "ผมทุบตีเธอให้ยอม หลังข่มขืน เราไปที่ศาล และลงทะเบียนเธอในชื่อของผมอย่างเป็นทางการ"   

 


จากนั้น รายการก็เผยคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นฮามิด ซึ่งได้รับอนุญาตจากทางการให้เจอกับ อาบู ฮูมาม ตามที่ร้องขอ อาบูไม่ยอมสบตาอดีตผู้ถูกกระทำ ขณะที่อดีตเหยื่อกลั้นสะอื้นขณะพูดกับฮูมาม เธอบอกให้เขาสบตาแต่อีกฝ่ายก้มหน้าและร่ำไห้  

 


อดีตทาสกามารมณ์บอกกับชายตรงหน้า ว่า เขาทำลายชีวิตของเธอ ด้วยการจับตัวเธอไปและข่มขืนเธอ  ฮาหมิดถามซ้ำๆว่า ทำแบบนั้นกับฉันทำไม มีน้องสาวไหม มีความรู้สึกบ้างไหม เธออายุเพียง 14 ปีเองในเวลานั้น  คลิปการเผชิญหน้า 1.34 นาที จบลงหลังจากที่ฮาหมัดเป็นลมฟุบกับพื้น  

 


รู้จักกับชาว'ยาซีดิ'เหยื่อล่าสุดของไอเอส


ชาวยาซีดิ เป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนา  โดยราว 5.5 แสนคนจาก 1.5 ล้านคนทั่วโลก อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทางเหนือของอิรัก  ก่อนไอเอสซึ่งมองว่ายาซิดีเป็นพวกนอกรีต บุกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมในช่วงเรืองอำนาจ ในเดือนสิงหาคม 2557  ทำให้ชาวยาซีดิราว 3.6 แสนคนต้องหลบหนีแตกกระสายซ่านเซ็นไปในหลายพื้นที่ของอิรัก  รวมถึงพื้นที่ของชาวเคิร์ด 

 


เด็กหญิงและผู้หญิงจำนวนมากถูกกวาดต้อนขายเป็นทาส หรือบำเรอกาม หลายร้อยครอบครัวถูกบังคับให้เลือกเปลี่ยนมานับถือนิกายสุหนี่ หรือเลือกตาย ทางการประเมินว่าชาวยาซีดิราว 6,400 คนถูกไอเอสลักพาตัวไป ราวครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่หลบหนีหรือได้รับการช่วยเหลือ ที่เหลือไม่ทราบชะตากรรม 


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ