ข่าว

ม็อบเกษตรกร​ จี้ ​มนัญญา ลาออก เลิกแบนสารพิษ​

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลุ่มเกษตรกร​สนับสนุนการ​ใช้สารเคมี​​​ บุกทำเนียบ​ฯ-​กระทรวงเกษตร จี้ มนัญญา​ ลาออก​จากตำแหน่งปมแบน 3 สารพิษ​ ขีดเส้นบ่าย​ 3​ กระทรวงสาธารณสุขส่งผลตรวจสารตกค้าง

 

                  วันที่ 26​ พ.ย.​ 2562​ ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเกษตรกรจำนวนนับพันคนแต่งชุดดำประท้วงจานแบนสารเคมีวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในช่วงบ่ายวันนี้

(อ่านข่าว คำต่อคำจดหมาย สหรัฐฯ ค้านไทยแบน 3 สารพิษ)

 

 

 

                  นางสาวอัญชุลี​ ลักษณ์​อำนวยพร​ ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง​ ตัวแทนเกษตรกร ระบุว่า​ จากการรับฟังความคิดเห็นของกรมวิชาการเกษตร โดยมีผู้แสดงความคิดเห็น 47, 789 คนมีคนคัดค้าน 75% เห็นด้วย 25% กลุ่มเกษตรกรมีความคิดเห็นโดยสรุปว่า​ เกษตรกรยังคงมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด​ เนื่องจากเป็นปัจจัยในการผลิตของเกษตรกรและเหตุผลในการยกเลิกไม่เพียงพอ ชัดเจนและยังมีข้อโต้แย้งทางวิชาการที่ยังไม่ได้ข้อยุติ และที่สำคัญคือไม่มีสารทดแทนหรือวิธีการทางเลือกอื่นที่มีประสิทธิภาพและราคาเทียบเท่าได้กับสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิดอีกทั้งสารชีวภัณฑ์​ เมื่อมีการตรวจสอบสารออกฤทธิ์ในขวดก็พบว่ามีสารเคมีพาราควอตและไกลโฟเซตเป็นส่วนผสมในสารชีวภัณฑ์นั้น ดังนั้นการยกเลิกการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิดจึงสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรอย่างร้ายแรง​ อีกทั้งยังส่งผลต่ออุตสาหกรรม​ ที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตรอีกด้วย เช่น อาหารสัตว์​ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

 

 

ม็อบเกษตรกร​ จี้ ​มนัญญา ลาออก เลิกแบนสารพิษ​

 

 

                  ตลอดระยะเวลา​ นับแต่การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ของนางสาวมนัญญา​ ไทยเศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ ที่มีเป้าหมายในการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด​ โดยไม่มีการพิจารณาข้อมูลทางวิชาการข้อเท็จจริงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ประกอบและบิดเบือนบัญชานายกรัฐมนตรี​ โดยใช้อำนาจการเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตร​ กดขี่บังคับขู่เข็ญข้าราชการ​ สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับเกษตรกรทุกหย่อมหญ้า ไม่เคารพกฎหมาย​ ไม่ฟังเสียงร้องทุกข์ของเกษตรกรและภาคส่วนอื่น จึงเป็นเหตุผลในการร่วมชุมนุมในวันนี้

                  โดยมีข้อเรียกร้องต่อประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีคือ 1. เกษตรกรขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญทวงสิทธิ์ผลการรับฟังความคิดเห็นว่าเสียงส่วนใหญ่คัดค้านการแบนสารเคมี

 

 

ม็อบเกษตรกร​ จี้ ​มนัญญา ลาออก เลิกแบนสารพิษ​

 

 

 

                  2. แจ้งนายกรัฐมนตรีให้ทราบไปถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่าการแบนสารเคมีส่งผลกระทบถึงสนธิสัญญาและข้อผูกพันระหว่างประเทศอื่น

                  3. ขอให้นางมนัญญา​ ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

 

 

ม็อบเกษตรกร​ จี้ ​มนัญญา ลาออก เลิกแบนสารพิษ​

 

 

                  4. ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ นายแพทย์ธีระวัฒน์​ เหมะจุฑา ปลัดสธ.​ เลขา​ อย.​ อธิบดีกรมอนามัย​ อธิบดีกรมการแพทย์ นำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะใบรายงานการตรวจสอบ​ที่ยืนยันว่า​ ตรวจพบการตกค้างของสารเคมี 3 ชนิด​ ในผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี​ พร้อมเซ็นชื่อรับรอง​ และขอรับเอกสารหลักฐานดังกล่าว​ 15.00​ น.​วันนี้ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม​ ถ้าไม่เอาเอกสารมามอบให้ หมายถึงว่าการ​ ผลการตรวจการตกค้างในผักและผลไม้เป็นเท็จ

                  และ 5. ข้อเรียกร้องให้กลุ่มนักวิชาการ​ ที่ออกมาต่อต้านสารเคมีแสดงความรับผิดชอบและยืนยันว่างานวิชาการที่ตนวิจัยนั้นมีความถูกต้อง

 

 

ม็อบเกษตรกร​ จี้ ​มนัญญา ลาออก เลิกแบนสารพิษ​

 

 

                  กลุ่มเกษตรกร​ จึงขอคัดค้าน​ มติคณะกรรมการวัตถุอันตราย​ แต่สนับสนุนมาตรการจำกัดการใช้ตามประกาศกระทรวงเกษตร 5 ฉบับ​ ที่มีผลบังคับใช้ให้มีการอบรม​ ผู้ฉีดพ่น​ และผู้ขาย​ ซึ่งการสอบผ่านแล้ว 5​ แสนราย​ อีกทั้งเป็นการยกระดับเกษตรกรไทยในการเกษตรที่ดี​ GAP คือทำเกษตรอย่างปลอดภัยใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง

                  เกษตรกรขอความเป็นธรรมและขอความเมตตาจากนายกรัฐมนตรี​ เห็นถึงความจำเป็นในการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด​ เพราะเป็นปัจจัยผลผลิตของเกษตรกร ขณะนี้เกษตรกรทุกคนประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน​ อีกทั้งมีวิกฤต​ิที่จะเป็นห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ​ โดยขอให้เกษตรกรได้มีโอกาสใช้ 3 สารดังกล่าว​ ตามกรอบมาตรการจำกัดการใช้ต่อไป​ และขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบการกระทำที่นำข้อมูลของ NGO มาใช้โดยไม่มีการตรวจสอบและทบทวนย้อนกลับส่งผลเสียหายต่อเกษตรกรและระบบราชการ

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ