ข่าว

สามีภรรยาเลือกลาโลกพร้อมกัน-คนหนึ่งรอดและกลายเป็นฆาตกร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลูกสาวเรียกร้องถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขกฎหมายช่วยให้จากไปอย่างมีศักดิ์ศรี 

 

 

ภาพด้านบนเป็นภาพสุดท้ายของ มาวิส และ เดนนิส เอคเคลสตัน สามีภรรยาชาวอังกฤษ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข 60 ปี และตัดสินใจลาโลกพร้อมกัน ด้วยการกินยาเกินขนาด เมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว 


สามี วัย 81 ปี ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ต้องการยุติความทุกข์ทรมาน และภรรยาก็พร้อมจะจบชีวิตตนเองไปด้วยกัน แต่หลังจากกินยาเข้าไป ลูกสาวและหลานของทั้งสองมาพบเข้าและพาส่งโรงพยาบาล 


เดนนิส สิ้นลมราว 20 นาทีหลังภาพนี้ถูกถ่ายเก็บไว้ แต่แพทย์ช่วยชีวิตภรรยาวัย 80 ของเขาไว้ได้ทัน 


คืนวันต่อมา เธอถูกจับขณะอยู่ในชุดคลุมนอน สวมรองเท้าแตะ และถูกส่งเข้าห้องขัง 30 ชม. ฐานต้องสงสัยฆ่าคนตาย 


1 เมษายนที่ผ่านมา ลูกสามคนของมาวิสและเดนนิส ได้รับข่าวร้าย มารดาถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม และฆาตกรรมโดยไม่เจตนา แต่หลังการไต่สวนอย่างสะเทือนใจ 3 สัปดาห์ปิดฉากลงเมื่อเดือนกันยายน  คณะลูกขุนลงความเห็นว่า มาวิสไม่มีความผิด 

 

แม้คดีจบลงด้วยดี แต่ จอย มุนส์ ลูกสาวของทั้งสอง ตัดสินใจเผยแพร่ภาพสุดท้ายของพ่อและแม่ เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยการฆ่าตัวตายแบบได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ( assisted suicide ) 

 

 

 

 


เธอทวีตรูปของทั้งสอง และตั้งคำถามว่า  “แม่วัย 80 ของฉันดูเหมือนฆาตกรหรือ” และว่าเหตุที่เธอกับเควิน พี่ชาย นำภาพนี้มาเผยแพร่  ก็เพื่อให้รู้ว่าครอบครัวต้องเผชิญอะไรบ้างกับการเฝ้ามองบุคคลอันเป็นที่รักทุกข์ทรมาน และแม่ถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม ฐานพยายามฆ่าตัวตายกับพ่อที่ปวยหนักจากมะเร็ง ซึ่งเธอระบุว่านี่ไม่ใช่ฆาตกรรม แต่เป็นวาระสุดท้ายของชีวิตรัก 60 ปี  

 

“พ่ออยากหลุดพ้นจากความเจ็บปวด แม่ไม่สามารถทนเห็นพ่อทรมาน จึงพร้อมจะเสียสละอย่างสูงสุด นั่นคือชีวิตของตัวเอง เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะกฎหมายในประเทศนี้ไง” 


ลูกสาว เขียนว่า แม่ของเธอไม่ควรถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม ไม่ควรถูกส่งเข้าห้องขัง 30 ชม. และไม่ควรต้องเข้ารับการพิจารณาคดีเกือบสามสัปดาห์  โชคดีที่คณะลูกขุนเข้าใจ และความยุติธรรมบังเกิด ผลตัดสินไม่มีความผิด  


“บุคคลอันที่เป็นรักจะต้องทรมานกับความเจ็บปวดทุกวัน หากเราไม่แก้ไขกฎหมาย ในฐานะผู้ใหญ่ รู้ผิดชอบชั่วดี เราควรมีสิทธิเลือก ฉันภูมิใจมากที่เป็นชาวอังกฤษ แต่เชื่อไหมว่าประเทศของเรายอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ มันเกิดขึ้นแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ควรนำออกมาข้างนอก แต่เราต้องการนำมาแชร์ให้ทุกคนได้ตระหนัก หากช่วยแก้ไขกฎหมายได้ นั่นก็จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่า" 

 

จอย ระบุด้วยว่า แม่ของเธอเวลานี้สบายดี แต่สำหรับพ่อ หากเขารู้สักนิดว่าภรรยาของตัวเองจะต้องเจอกับอะไร พ่อคงใจสลาย เธอเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีก หากยังไม่แก้ไขกฎหมาย 

 

 

เมื่อเดือนกันยายน เบอร์มิงแฮมไลฟ์ รายงานเรื่องราวของมาวิส เธอรู้สึกแย่ที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าความพยายามฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ หญิงชราเล่าว่า สามีของเธอบอกถึงความตั้งใจที่จะจบชีวิตตนเอง มากกว่ามีชีวิตอยู่กับมะเร็งลำไส้ที่ทรุดลงทุกวัน “หากนั่นเป็นทางที่คุณจะไป ฉันก็จะไปด้วย” เธอบอกกับคนรัก 

 


กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว มาวิสเขียนจดหมายลาตายอย่างยาว ก่อนที่ทั้งคู่พยายามฆ่าตัวตายที่บ้าน ในย่าน ราเวน โคลส เมืองฮันติงตัน  


“ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก” คือคำพูดสุดท้ายของสามี ขณะที่ภรรยาตอบว่า “ราตรีสวัสดิ์ พระเจ้าอำนวยพร” แต่เมื่อลืมตาเห็นพยาบาล เธอรู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย “ฉันไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และจะไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มันเกิดขึ้น เวลานี้ ฉันอยู่กับครอบครัว และมีความสุขกับพวกขา แต่ฉันยังอยากไปอยู่กับเดนนิสอยู่ดี” 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

บันทึกของคุณก๊อป ผู้เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีการุณยฆาต
ปู่ไต้หวันขอรับการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์ 
จับสามีสเปนช่วยภรรยาพ้นทรมานโรคร้าย30ปีสังคมถกหนักการุณยฆาต
ภรรยาเล่านาทีสุดท้ายก่อนสามีจากไปที่คลินิกการุณยฆาตสวิส
การุณยฆาตแล้ว คุณปู่ออสซี่สิ้นลมอย่างสงบตามประสงค์   

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ