เปิดข้อมูลชัดทุกมุม แกะรอยไอ้โม่งปลิดชีพเศรษฐีนีใจบุญ

จากกรณี พบร่างเศรษฐีนีนักปฏิบัติธรรม ถูกหมกในตู้แช่เย็นโบกปูนทับในตึกแถวของเธอเอง โดยผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วรรณี จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐีนีนักปฏิบัติธรรมลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทอง หลังขาดการติดต่อกับญาติไปหลายวันและออกตามหาจนพบกลายเป็นศพ หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ว่าพบความผิดสังเกตโดยมีกลิ่นเน่าเหม็น ออกมา จากบ้านพักที่เป็นตึกแถวของผู้เสียชีวิต

กระทั่งตำรวจได้แจ้งเบาะแสสามารถแกะรอยคนร้ายได้ ซึ่งได้นำบัตร ATM ของผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุพบคนร้ายขับรถผู้เสียชีวิตไป ทั้งยังนำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียชีวิตไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ก่อนขับรถไปยังจังหวัดเชียงราย วนเข้าจังหวัดลำปาง และ กลับเข้าเชียงใหม่ หลังจากนั้นขับเข้าไปย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ติดตาม

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวคนร้ายโดยเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และแกะรอยคนร้ายจากจุดต่างๆ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ตู้เอทีเอ็ม สามารถแกะรอยคนร้ายได้พอสมควร โดยพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ตระเวนนำเอทีเอ็มของผู้เสียชีวิตไปกดเงินสดหลายพื้นที่ด้วยกัน โดยระหว่างกดเงินจะปิดหน้าติดตา มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย และล่าสุดพบว่า ผู้ต้องสงสัยไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ทีบ้านเพ จ.ระยอง โดยคนร้ายจะกดเงินครั้งละ 20,000 บาท ทางตำรวจยังพบว่าภายในบ้านของผู้เสียชีวิตได้ถูกคนร้ายรื้อกล้องวงจรปิดภายในบ้านออกไปทั้งหมดด้วย

พยานรายหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตซื้อตึกและเพิ่งเข้ามาอยู่อาศัยเพียงลำพังได้ไม่กี่เดือน นานๆ จะมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มาปฏิบัติธรรมด้วยกันที่วัดแวะมาพักบ้าง ซึ่งโดยปกติผู้เสียชีวิตจะเป็นคนค่อนข้างสันโดษไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครในแต่ละวันจะออกไปปฏิบัติธรรมที่วัดและไปใช้บริการร้านนวดแผนโบราณแล้วกลับมาบ้าน กระทั่งช่วงประมาณหลังวันที่ 13 ต.ค.62 เริ่มสังเกตพบ ความผิดปกติว่าผู้เสียชีวิตหายไป และไม่ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เหมือนที่เคยเห็นทุกวัน รวมทั้งรถยนต์ เก๋ง ยี่ห้อ BMW สีขาวป้ายแดง ของผู้ตายก็หายไปด้วย รวมทั้งมีเลือดไหลและกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากตึกดังกล่าว จึงได้มีการแจ้งไปยังเทศบาล และประสานไปยังญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่ต่างจังหวัด

กระทั่งวันที่ 28 ตุลาคม 2562 ทางญาติผู้เสียชีวิตได้เดินทางมา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเปิดเข้าไปดูในบ้าน ซึ่งตัวเองที่เป็นช่างทำกุญแจได้ช่วยเปิดประตูเข้าไป และพบศพดังกล่าว ที่ถูกมัดมือมัดเท้า เอาถุงดำครอบหัวยัดใส่ตู้เย็น และโรยปูนทับ สร้างความตระหนกตกใจและหวาดผวาให้กับ ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะเหตุดังกล่าวเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอจอมทองมาก่อน

จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุม ตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ น่าจะต้องวางแผนมาเป็นอย่างดี และน่าจะมีความสนิทสนมกับผู้เสียชีวิตพอสมควร เพราะกุญแจล็อคเข้าออกตึกดังกล่าวเป็นระบบดิจิตอลที่ไม่สามารถ ปั๊มลูกกุญแจได้ง่ายๆ และหลังเกิดเหตุยังได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไปด้วย พร้อมทั้งส่งข้อความไปบอกญาติ ของผู้เสียชีวิตว่า ผู้เสียชีวิตจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างประเทศ

ด้านพยานสาวอีกราย ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้ให้การว่า ผู้เสียชีวิตนั้นได้มาซื้อตึกแห่งนี้พร้อม ๆ กับตน เขาตบแต่งบ้านอย่างดี และเป็นคนมีฐานะ ก่อนมาพบศพนั้น สองอาทิตย์ก่อนเห็นเลือดไหลออกมาจากช่องประตู สงสัยว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาแน่ จึงได้แจ้งให้กับผู้ใหญ่บ้านและสายตรวจมาตรวจสอบ

แต่ปรากฏว่า บ้านนั้นทำประตูอย่างดี ไม่สามารถเข้าได้ ก็ต้องปล่อยไปปรากฏว่า ผ่านมาจนเลือดแห้ง และกลิ่นก็เหม็นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งญาติของผู้เสียชีวิตมาเปิดดูกับเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเป็นศพดังกล่าว สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น มักจะนำเอาคนสนิทมาด้วยมาพักที่บ้านแห่งนี้ บางครั้งก็ 2-3 คน บางครั้งก็มาคนเดียว และผู้เสียชีวิตจะใส่ชุดสีขาวตลอด