ผบ.ตร.สั่งล่ามือฆ่าเศรษฐีนีโบกปูนยัดตู้เย็น

           วันนี้ 28 ตุลาคม ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่า น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง เศรษฐีนีสายบุญ ยัดศพใส่ตู้เย็น โรยปูนซีเมนต์ทับ และมีทรัพย์สินหายไปอย่างรถหรู เหตุเกิดที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยสั่งกำชับพนักงานสอบสวนมาให้สอบสวนด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว คลี่คลายทุกข้อสงสัยเงื่อนงำต่างๆ ในคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ  

         พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยถึงประเด็นการฆาตกรรมในครั้งนี้ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง คงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และแนวทางในการติดตามจับผู้ต้องหานั้น ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ซึ่งในชั้นยังไม่สามารถอาจเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลหรือพบเบาะแสของผู้ที่กระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบ้ติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 1599 หรือสถานีตำรวจภูธรจอมทองหมายเลข 053-341-193

          พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า สำหรับคดีฆ่าโหดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก นายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง ว่า นางสาววรรณี  จิรเจริญยิ่ง น้องสาว ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงข้อมูลสุดท้ายว่า มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุ ศรีจอมทอง และพักอยู่ในบ้านพัก หมู่ 3 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าทีได้เข้าตรวจสอบบ้านพักดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในบ้าน จึงเข้าไปสำรวจพบว่าต้นกลิ่นมาจากตู้เย็น 2 ประตู ที่ถูกวางนอนไว้ในห้องครัว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทอง จึงได้ลงมือตรวจเพิสูจน์ 

          ภายในตู้เย็นดังกล่าว พบศพเน่า ไม่ทราบเพศ ชื่อและสกุล สภาพสวมใส่เสื้อผ้า ถูกมัดมือ ไขว้หลัง มัดเท้า มัดหัวด้วยเทปกาวพลาสติก มีถุงพลาสติกคุมหัวนอนคว่ำหน้า ขดคู้อยู่ในตู้เย็นปิดทับด้วยผง ปูนซีเม็นต์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งศพไปที่นิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัว บุคคลและตรวจเก็บพยานหลักฐานที่ศพต่อไป       

          จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า โทรศัพท์มือถือและรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน 9กจ-3769 กทม.ของ น.ส.วรรณี ได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า น.ส.วรรณี ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดฆ่าตาย ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันตัวผู้เสียชีวิตให้แน่ชัดต่อไป

          นอกจากนี้ยังทีข้อมูลด้วยว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2562 น.ส.วรรณีได้ส่งข้อความทางไลน์หานางอารียา ที่เป็นเพื่อน ว่าจะไปเวียดนาม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อไม่ได้อีก ซึ่งต่อมานายวรพันธ์ พี่ชายผู้ตาย ทราบเรื่องจากนางอารียา เห็นว่าผิดปกติจึงตรวจสอบที่บ้านของ น.ส.วรรณี ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่พบตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านเกิดจนพบว่ากลายเป็นศพ.