สภาทันตกรรมอังกฤษ มีคำสั่งพักงานทันตแพทย์ ทูชาร์ พาเทล เป็นเวลา 1 ปี หลังสรุปผลสอบพบหมอผิดพลาด เป็นเหตุให้คนไข้เสียชีวิต หลังถอนฟัน 10 ซี่
ทันตแพทย์พาเทล นัดคนไข้หญิงนามสมมติ "เอ" ถอนฟัน 2 รอบในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อรักษาโรคเหงือกรุนแรง โดยก่อนหน้านั้น คนไข้แจ้งหมอแล้วว่าเธอรับประทานวาร์ฟาริน ยาละลายลิ่มเลือดอยู่
ผลไต่สวนเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม สรุปว่า หมอพาเทล ซึ่งมีประสบการณ์ถึง 30 ปี ไม่ได้ชั่งความเสี่ยงในการรักษา และละเลยแนวทางปฏิบัติที่ทันตแพทย์รับทราบกันดี
ทั้งนี้ หมอพาเทลตรวจคนไข้เอ ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 พบว่าเธอเป็นปริทันต์อักเสบ หรือเหงือกอักเสบ และนัดมาถอนฟันบางซี่ในครั้งหน้า แต่เธอหายไปเกือบ 4 ปี กลับมาอีกครั้งเมื่อ 5 มิถุนายน 2560 ด้วยปัญหาฟันโยก
เธอให้ข้อมูลกับหมอว่าใช้ยาวาร์ฟาริน เพราะป่วยเป็นอาการหายาก Thrombotic thrombocytopenic purpura ( ภาวะที่เกิดจากการที่มีเส้นเลือดเล็กๆในร่างกายเกิดการอุดตัน ร่วมกับการที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ) แต่หมอพาเทลไม่ได้หารือกับคนไข้ถึงความเสี่ยง ก่อนเริ่มถอนฟัน 5 ซี่เมื่อ 13 ก.ค. และอีก 5 ซี่ในวันที่ 18 ก.ค.
ไม่กี่ชั่วโมงหลังถอนฟันแถวบนครบ 10 ซี่ คนไข้เสียเลือดมาก ต้องเข้าโรงพยาบาล คิงส์ คอลเลจ กรุงลอนดอน ในวันเดียวกัน หมอห้ามเลือดและให้กลับบ้านได้ แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ( 19 ก.ค. 2560 ) เธอหมดสติในสภาพเลือดไหลจากปาก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต
ผลชันสูตรพบคนไข้เอ เสียชีวิต เพราะเสียเลือดจากการถอนฟัน และการใช้ยาวาร์ฟาริน ยาที่ใช้กันมานานกว่า 50 ปี และอาการแทรกซ้อนจากเสียเลือดหลังผ่าตัด เป็นความเสี่ยงที่ทันตแพทย์ทราบดี แต่ผลสอบสวน พบว่า หมอพาเทลไม่ได้ประเมินความเสี่ยงการเสียเลือด หรือจัดการกับแผลหลังถอนฟันอย่างเหมาะสม
“ความล้มเหลวของท่านทำให้คนไข้ เอ ตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายอย่างสำคัญและเป็นความเสียงที่เลี่ยงได้ ทั้งยังขัดกับคู่มือ เท่ากับไม่คำนึกความปลอดภัยของคนไข้ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง” รายงานสรุป
หมอพาเทล ให้ความร่วมมือกับการสอบสวน และยอมรับผลสรุป พร้อมกันนี้แสดงความเสียใจต่อความบกพร่องในการรักษา และขอโทษครอบครัวของคนไข้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง