ข่าว

สนธิญาณ ชี้ ธนาธร อันตราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สนธิญาณ ชี้ ธนาธร อันตราย ยกระดับจากขบวนการเคลื่อนไหว เป็นพรรคการเมือง

      รายการคมชัดลึก ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2562   ดำเนินรายการโดยนายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์   โดยมีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สื่อมวลชนอาวุโส ร่วมรายการ ในห้วข้อ “สงครามปฏิวัติครั้งใหม่ จุดไฟโดยตี๋ซินโดรม ”  ซึ่งเป็นตอนที่สอง 

   

 

      นายสนธิญาณ กล่าวว่า ตนกล้ากล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าจะเปลี่ยนประเทศผ่านรัฐธรรมนูญหรือแบบไหนก็ตามแต่การเปลี่ยนแปลงประเทศของนายธนาธร มีหลักคิดตามหลักคิดของพรรคปฏิวัติ ผู้ชมจะพิจารณาว่าพรรคอนาคตใหม่จะเป็นอันตรายหรือไม่ ในการปลุกเร้าคนรุ่นใหม่ 

 

       "ตนพูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เพราะเขาต้องการสร้างความรู้สึกว่านักศึกษาถูกกระทำ ทั้งที่ต่างกัน 6 ตุลาคม 2519  มีการฆ่ากัน มีการต่อสู้กันทางการเมือง ทุกฝ่ายพรรคการเมือง พรรคชาติไทย ซอยราชครู ที่ถูกจอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม จอมพลประภาส  กันให้ไปอยู่ต่างประเทศ  จอมพลถนอม จอมพลประภาส ครองอำนาจมายาวนาน นักธุรกิจจะทำธุรกิจก็ต้องหาจอมพลถนอม จอมพลประภาส   แต่วันนี้คุณมาตอกย้ำว่าจำได้ไหม 43  ปีก่อน นักศึกษาจะถูกฆ่า คนเหล่านั้นปัจจุบันอายุ 60 ปีกว่าแล้ว ทำไมคนเหล่านั้นไม่มาร่วมงาน แล้วบอกว่าเราถูกฆ่า เราจะต้องแก้แค้น ทำให้เราลำบากต้องเข้าป่า ก็เพราะว่าคนเหล่านั้นเห็นว่าบ้านเมืองปัจจุบันสงบดีแล้ว ”  

 

     นายสนธิญาณ  กล่าวว่า แต่สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่  ใช้สถานการณ์ที่พร้อมในโลกโซเชียล วินาทีเก็ส่งข้อมูลถึงกันได้แล้ว  จากเดิมสมัยก่อนติดต่อสื่อสารกันทางจดหมายต้องใช้เวลาหลายเดือน  ดังนั้นข่าวสารจึงเป็นยุทธศาสตร์กำหนดการรบที่จะนำไปสู่ชัยชนะ 

 

       นายสนธิญาณ  ได้ตั้งคำถามว่า ตี๋ซินโดรม อันตรายจริงหรือไม่  โดยนำหนังสือ“ Portrait  ธนาธร ” ที่สัมภาษณ์โดยนายวรพจน์ พันธุ์พงศ์  ซึ่งหนังสือเล่มนี้ตอนนี้ได้ถูกเก็บหมดแล้ว ในหนังสือดังกล่าวชี้ให้เห็นบางอย่าง  โดยเมื่อผู้สัมภาษณ์...

      ถามว่า ตำแหน่งนายกฯ คือ ลิมิตสูงสุดหรือมากกว่านั้น  

      นายธนาธร ตอบว่า ไม่ใช่ 

      ถามว่า ถ้าไม่ใช่ตำแหน่ง มันคืออะไร 

      ธนาธร ตอบว่า ขอออฟเรกคอร์ดนะ  ... มีอำนาจมากพอที่จะไปต่อรอง...  

     ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เราพูดไม่เป็นความจริง พูดง่ายๆมันเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว เราถึงโดนฝ่ายก้าวหน้าด่า 

    ถามว่า เรารู้มั๊ย รู้  มันก็รู้เหมือนกันหมด ปัญหาคือใครจะทำยังไง เราคิดว่า วิธีการของเรา คือต้องมีอำนาจและต่อรอง 

      ออฟเรกคอร์ดน่ะ   ....เรียก ธนาธร ไป... 

    นี่ต่างหาก คือเป้าหมาย ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เอาทหารออกจากเมืองไม่ได้หรอก

     จัดการเรื่องนี้ไม่ได้ จัดการเรื่องศาลไม่ได้หรอก จัดการอะไรก็ไม่ได้

      ถามว่าเรารู้มั๊ย สิ่งที่เราพูดโดยไม่พูดเรื่องนี้ มันไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้

     ถามว่ารู้มั๊ยรู้ แต่มันพูดไม่ได้ ยังมีข้อจำกัด

      ข้างต้น คือ ถาม-ตอบ  ในหนังสือ“ Portrait ธนาธร ”   

      จากนั้นนายสนธิญาณ ถามว่า  วันหนึ่งถ้าไม่มีข้อจำกัด  ธนาธร จะพูดมั๊ย และนายสนธิญาณ บอกว่า นายธนาธร พูด

 

    หนังสือ Portrait ธนาธร ทำก่อนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งแล้วได้ 80 เสียง วิธีคิดก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งต่างกัน  ตนพูดหลายครั้งว่านายธนาธร เป็นอันตราย เพราะนายธนาธรต้องการยกระดับจากขบวนการเคลื่อนไหวเป็นพรรคการเมือง จึงต้องผ่านการเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่ผ่านการเลือกตั้งไม่มีพลัง หลังเลือกตั้ง ได้ 80 เสียง ก็ไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพราะฐานะของหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นอันดับ 3 การเคลื่อนมีแรงกระเพื่อม 

 

      นายสนธิญาณ กล่าวต่อไปว่า กรณีแก้ไข มาตรา 1 พรรคเพื่อไทย บอกไม่ยุ่ง หมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ ตนมีคำถามว่า ตอนไปจัดเวทีที่จังหวัดปัตตานี ใครเป็นคนเชิญ ดร. ชลิตา บัณฑุวงศ์ ไป ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในเรื่องนี้ทุกคน ตนอยากรู้ว่า พรรคอนาคตใหม่โดยนายธนาธร เชิญ ดร.ชลิตา ไปเอง หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเชิญไปในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน และถ้านายธนาธรเชิญไปเอง พรรคร่วมฝ่ายค้านรู้มั๊ยว่าเชิญ ดร.ชลิตา ไปพูด และพรรคร่วมฝ่ายค้านรู้มั๊ยว่าเชิญ ดร.ชลิตา ไปพูดเรื่องมาตรา 1 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความสุ่มเสี่ยงและละเอียดอ่อน เพราะวันนี้นายธนาธร ได้บังคับให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ตกเป็นแนวร่วมเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 1เรียบร้อยแล้ว ตนจึงขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านกล้าพูดความจริงเรื่องนี้ 

 

       นายสนธิญาณ อธิบายต่อไปว่า นายธนาธร มีแนวรบ 3 ทาง คือ 1.วัฒนธรรม 2.การเมือง 3.ต่างประเทศ โดยในส่วนแนวรบวัฒนธรรม ก็คือ สร้างเพลง ,สร้างเพลท,กีฬา ,ภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้อยู่ในยุทธศาสตร์หมด มีกระบวนการที่ใช้ยุทธศาสตร์ขององค์กรปฏิวัติ เมื่อมี 80  เสียง ต้องคิดการใหญ่หลังเลือกตั้ง 

 

      ในด้านต่างประเทศ พรรคอนาคตใหม่คิดอะไรถึงไปจับมือกับ โจชัว หว่อง นายธนาธร ได้พูดในงาน Open  Future Forum   2019 ว่า ฮ่องกงคือแรงบันดาลใจให้พรรคอนาคตใหม่ เพราะในช่วงกำลังตัดสินใจว่าจะทำงานการเมือง ได้พูดคุยกันว่า จะทำเป็นขบวนการหรือพรรคการเมือง (เมื่อถึงตรงนี้สนธิญาณ พูดย้ำในเรื่องนายธาธร ต้องการยกระดับจากขบวนการเคลื่อนไหว เป็นพรรคการเมือง )   แต่สุดท้ายลงตัวที่พรรคการเมือง เพราะเห็นว่า ประชาชนอาจไม่พร้อมการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่หลังจากปี 2552 และ ปี 2553  ที่มีการปฏิบัติการทางทหารและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

 

     ส่วนนายโจชัว หว่อง ได้พูดในงานดังกล่าวว่า  พรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นกำเนิดของอำนาจขั้วที่สามของพรรคการเมืองไทย  

 

     นายสนธิญาณ กล่าว ในตอนท้ายรายการว่า ถ้านายธนาธรมีอำนาจในประเทศไทย แล้วบอกว่า ต้องประชาธิปไตย ฮ่องกงต้องแยกจากจีนสู่โลกเสรี ผลที่ตามมา จีนกับไทยขาดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยจะกระทบกระเทือน

 

      “คนที่จะขึ้นมาบริหารประเทศได้ ต้องมีวุฒิภาวะ  ต้องยึดประเทศเป็นที่ตั้ง ต้องคิดถึงประโยชน์ของคนในชาติเป็นที่ตั้ง ”

    

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ