รวบทันควัน โจรหมวกกันน็อคควงปืนบุกปล้นเซเว่น ชิงเงิน 5 หมื่นบาท เร่งตามล่าอีก 1 ที่ยังหลบหนี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 2562 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ประชาชื่น และกก.สส.บก.น.2 ร่วมกันแถลงการจับกุม นายธนาทรัพย์ หรือบิ๊ก ศันสนะโชติรัศมี อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 944/2562 ลงวันที่ 2 ก.ค.62 ในความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน พร้อมของกลาง รถจยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 9 กฌ 6053 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน็อคสีขาวเหลือง 1 ใบ เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ตอนก่อเหตุ 1 ชุด ประกอบด้วย เสื้อคลุม กางเกงขายาว รองเท้าแตะ สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.62
พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.25 น.ของวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน แต่งกายมิดชิด ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีเลฟเว่น) สาขาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเหนือ (มทร.พระนครเหนือ) ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. ในพื้นที่ สน.ประชาชื่น ได้เงินสดไปประมาณ 50,000 บาท ก่อนเดินออกจากร้านแล้วใช้รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าท่าน้ำนนท์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าคนร้ายคือ นายธนาทรัพย์ ศันสนะโชติรัศมี อายุ 20 ปี และ นายธวัชชัย หรือโป้ง รัตนภาณุ อายุ 43 ปี จึงขอศาลอาญาออกหมายจับทั้ง 2 คน ในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน ก่อนจับกุมตัวนายธนาทรัพย์ ได้ที่บ้านพัก ภายในซอยพิบูลสงคราม 2 แยก 2 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน ส่วนนายธวัชชัย ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายธนาทรัพย์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายธวัชชัย ก่อเหตุจริง หลังก่อเหตุได้นำเงินที่ชิงมาทั้งหมดฝากไว้กับนายธวัชชัยที่กำลังหลบหนี ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะนายธวัชชัยชักชวนมา โดยตนจะนำเงินไปใช้เที่ยวเตร่ ส่วนนายธวัชชัยนำเงินไปใช้หนี้การพนัน ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติทั้งนายธนาทรัพย์และนายธวัชชัย ไม่พบว่าเคยก่อเหตุ และไม่เคยถูกคุมขังในเรือนจำมาแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง