จับแล้วหนุ่มใช้ขวดปากฉลามแทงทหารดับ

 

              เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 เม.ย. 2562 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.สุนันท์ วงษ์สีมี รองผกก.(สส.), พ.ต.ท.นนทจิต บุดดีคำ รองผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.ตรีกฤช จงวิไล รองผกก.(สส.) ปฏิบัติราชการ สภ.เมืองหนองคาย, ร.ต.อ.ธนวินท์ พวงมะลิ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายนพดล ศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/15 คลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. หลังก่อเหตุฆ่า พลทหาร พลนิกร ยศมาร อายุ 22 ปี ทหารสังกัด ป.13 พัน 3 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประจำจังหวัดหนองคาย (กกล.หนองคาย) จนเสียชีวิต ในข้อหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ และฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่"

 

              พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า เที่ยงคืนของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทภายในศูนย์การค้าเอเชียพีค ถนนศูนย์ราชการ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งในช่วงเกิดเหตุได้มี จ่าสิบตรีสาธิต หลาบคำ ทหารกกล.หนองคาย ซึ่งอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ พยายามจะห้าม แต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังได้รับบาดเจ็บหัวแตกฟกช้ำตามร่างกาย จึงได้โทรศัพท์ขอกำลังเสริมจากตำรวจ และทหาร กกล.

 

 

 

 

              จากนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพร้อมประสาน กกล.จังหวัดหนองคาย เมื่อไปถึงพบวัยรุ่น 2 กลุ่มกำลังทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน ปรากฏว่า พลทหารพลนิกร ซึ่งอยู่ในชุดทหารได้เข้าระงับเหตุ กลับถูกวัยรุ่นคนหนึ่งใช้ขวดเบียร์ที่ทุบเป็นปากฉลามจ้วงแทงเข้าที่ใบหน้าและลำคอ จนเป็นแผลฉกรรจ์ เพื่อนทหารได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคาย แต่พลทหารพลนิกรเสียเลือดมาก กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

              ขณะเดียวกัน ด.ต.ประเสริฐ รอดชมพู ผบ.หมู่(ป.)สภ.เมืองหนองคาย ถูกคมขวดบาดนิ้วเป็นแผล และบาดเจ็บบริเวณดั้งจมูก หลังเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นต่างพากันแยกย้ายออกจากที่เกิดเหตุไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและจากคลิปที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายไว้ พบหลักฐานเป็นภาพขณะที่นายนพดล ใส่เสื้อยืดสีขาว ถือขวดปากฉลามอยู่ในมือ และลงมือจ้วงแทงเจ้าหน้าที่ขณะเข้าระงับเหตุ จึงได้ติดตามจับกุมนายนพดลและกลุ่มเพื่อนได้ทั้งหมดประมาณ 10 คน มาสอบปากคำ

 

 

 

 

 

              จากการสอบสวน นายนพดล ช่วงแรกไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จนสุดท้ายเห็นคลิปตัวเองถึงกับร่ำไห้ยอมรับสารภาพว่าเป็นตัวเองจริง โดยนายนพดล เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ที่บ้านกวนวัน อ.เมืองหนองคาย ช่วงกลางวันได้ดื่มเหล้าเบียร์กับเพื่อนเก่าหลายคน จนเย็นเพื่อนชวนมาเที่ยวชมคอนเสิร์ตที่เอเชียพีค ตนก็มากับเพื่อนรวมประมาณ 7 คน ขณะที่กำลังเที่ยวสนุกอยู่ เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งเดินมาบอกว่า มีกลุ่มวัยรุ่นในตัวเมืองหนองคายเขม่นจะมาหาเรื่อง ซึ่งในตอนนั้นตนเมามากแล้ว อยากช่วยเพื่อนไม่ให้ถูกทำร้าย จึงไปเอาขวดเบียร์มาทุบเป็นปากฉลาม หวังจะเอาไว้ป้องกันเพื่อนและป้องกันตัว แต่เพราะตนเมามาก จำไม่ได้ว่าได้ลงมือทำร้ายใครหรือไม่ มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ในห้องขังแล้ว ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอขมาครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ตนทำไปเพราะขาดสติจากการดื่มเหล้า ไม่อยากให้คนอื่นทำตาม หากดื่มเมาแล้วควรนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านจะดีกว่า

 

 

 

 

              พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุทหารตำรวจพยายามห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอยู่ พลทหารพลนิกร ได้เดินเข้าไปจะห้าม แต่คาดว่าคงจะไม่ทันสังเกตเห็นว่าในมือของนายนพดลมีขวดปากฉลามอยู่ เมื่อถูกนายนพดลฮึดฮัดและเหวี่ยงแขนที่ถือขวดมาแทงใบหน้าและลำคอ พลทหารพลนิกรหน้าสะบัดจากแรงปะทะ แต่ยังไม่ยอมปล่อยตัวนายนพดล จนเพื่อนทหารที่มาด้วยกันเห็นเลือดจากใบหน้าและลำคอทะลักออกมา จึงเข้ามาห้ามและพาตัวพลทหารพลนิกรส่งโรงพยาบาลหนองคาย แต่คาดว่าแผลจะถูกเส้นเลือดใหญ่ทำให้เสียชีวิต ช่วงแรกที่สอบปากคำนายนพดลไม่ยอมรับ จนกระทั่งเห็นคลิปเหตุการณ์จึงยอมรับสารภาพ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นถูกแจ้งข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ และถูกดำเนินคดีด้วย

              พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานหน่วยงานข้างเคียงดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชนนักท่องเที่ยว กรณีที่เกิดขึ้นนี้เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่เป็นผู้รักษาความเรียบร้อย เมื่อมีเหตุเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุด ทุกคนต้องหยุด จะได้ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาสำนึกผิด ทางตำรวจจะไม่คัดค้านการประกันตัว และได้ส่งผู้ต้องหาไปศาลจังหวัดหนองคายต่อไป