สลด รถบรรทุกปูนทับร่างชายเร่ร่อนขาด 2 ท่อน

 

                เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 มี.ค.2562 ร.ต.อ.หาญณรงค์ ดอนไสว รองสว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเหตุมีบรรทุกเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งชนคนเดินเท้าเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณปากซอยพระราม 3 ซอย 28 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางโพงพาง กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

 

 

 

                ที่เกิดเหตุเป็นถนนพระราม 3 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าถนนตก ช่วงปากซอยพระราม 3 ซอย 28 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบช่วงเลนรถประจำทาง BRT วัดดอกไม้ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง อายุประมาณ 45-50 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายสก็อต แขนยาวสีเขียวเทา กางเกงยีนส์ขายาวสีเทา โดยร่างขาดออกจากกันแบ่งเป็นสองท่อน พบท่อนล่างตั้งแต่เอวจนถึงเท้าสภาพลำไส้ทะลักออกมากองบนพื้นถนน ใกล้กันพบท่อนบนตั้งแต่ลำตัวถึงศีรษะกระเด็นไปกองอยู่ช่วงขอบปูนคลองระบายน้ำเกาะกลางถนน

 

 

 

 

                จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารติดตัว ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรอยไถลเป็นทางยาวและพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ฟูโซ่ สีขาว ทะเบียน 81-9720 สระบุรี สภาพหมุนหัวย้อนศรและพลิกคว่ำตะแคงข้างซ้าย ใกล้กันพบนายสุริยา ศรีกลางเมือง อายุ 47 ปี คนขับรถคันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องปิดช่องการจราจรจำนวน 2 เลน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาว นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รายคือ ด.ช.วัลลภ อายุ 14 ปี บาดเจ็บบริเวณแผลถลอกบริเวณขา เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.สุขสวัสดิ์

 

 

 

 

                ร.ต.อ.หาญณรงค์ เปิดเผยว่า สอบสวนนายสุริยา ให้การว่า ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุมาจากศูนย์จ่ายเชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำปูนมาลงที่แคมป์งานก่อสร้างย่านพระราม 3 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา ก่อนจะตีรถเปล่าเพื่อกลับบริษัท จากนั้นเมื่อมาถึงบริเวณสถานี BRT วัดดอกไม้ รถเกิดเสียหลักพุ่งชนขอบทาง ก่อนจะพลิกคว่ำ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้ตายยืนอยู่ ทำให้รถไถลไปชนจนเสียชีวิต

 

 

 

 

                จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่า ผู้ตายเป็นชายเร่ร่อนเก็บของเก่าขายอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบปากคำคนขับรถบรรทุกอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงพิสูจน์ทราบตัวผู้ตายว่าเป็นใครก่อนประสานญาติติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากับนายสุริยา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป