ข่าว

หวั่นยืดเยื้อสต็อกข้าว 10 ล้านตันสู้โควิด-19

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เทงบจ้างงานเกษตรกร 4.1 หมื่นราย ช่วงฤดูแล้ง กว่า 3 พันล้านบาทโครงการชลประทาน กระตุ้นเศรษฐกิจ

 

19 มีนาคม 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งยังต่อเนื่องจากปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน และต้นปีนี้ได้มีสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19  

 

ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวมากขึ้น โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  รมว.เกษตรฯและ รมช.เกษตรฯ ได้ร่วมกันวางแผนรองรับผลกระทบต่อเกษตรกร ซึ่งกระทรวงเกษตรฯและ กรมชลประทาน เดินหน้ามาตรการจ้างงานเกษตร วงเงิน 3.1 พันล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เป็นการจ้างงานในโครงการชลประทาน ซ่อมแซมบำรุงรักษา ขุดลอกคูคลอง ก่อสร้างแหล่งน้ำระบบส่งน้ำในชุมชน แก้มลิง

 

โดยจ้างงานทั่วประเทศครอบคลุมจ้างแรงงาน 4.1หมื่นคน ทำให้เกษตรกร มีรายได้ 2.4 หมื่นบาท-5 หมื่นบาทต่อคน ค่าจ้างวันละ 377 บาท หรือประมาณ 8 พันบาทต่อคน  ระยะเวลาการจ้าง 3-7 เดือน ซึ่งรองรับผลกระทบทั้งสองด้านยังคงมีเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกหลายเดือน โดยกรมชลประทาน จะประกาศรับสมัครการจ้างแรงงานเกษตรกรทั่วประเทศในเขตพื้นที่โครงการชลประทาน ทุกโครงการรวม 208 โครงการ ซึ่งเกษตรกรเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วในพื้นที่และไม่ได้ทำนาปรังในฤดูแล้งนี้

 

ทั้งนี้ภายใต้แผนปฏิบัติการรับมือภัยแล้ง ยังเหลืออีก 44 วัน จะสิ้นสุดแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ซึ่งเหลือน้ำอีก 29% ส่วนลุ่มเจ้าพระยา เหลือน้ำ 24 % มั่นใจว่าน้ำกินใช้ รักษาระบบนิเวศ เพาะปลูกพืชฤดูแล้งใช้น้ำน้อย มีเพียงพอและ สำรองน้ำ ไว้อีก 3 เดือน ถึงเดือนก.ค.หากเกิดกรณีฝนทิ้งช่วง 

 

 

 

หวั่นยืดเยื้อสต็อกข้าว 10 ล้านตันสู้โควิด-19

 

 

อย่างไรก็ตามในส่วนการส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อย และเลี้ยงปศุสัตว์ ในช่วงฤดูแล้ง ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.) อนุมัติวงเงิน5หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกร คิดดอกต่ำ 100บาท ต่อวงเงินกู้1ล้านบาท เพื่อนำมาประกอบอาชีพบรรเทาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

 

ทั้งนี้ในวิกฤติยังมีโอกาส ซึ่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ผลิตอาหารเลี้ยงโลก ปีที่แล้วส่งออกภาคเกษตร กว่า1ล้านๆบาท ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์ม ปศุสัตว์ ประมง สินค้าแปรรูป ผลไม้ พืชผักสด ดังนั้นผลการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ไปกว่า 100 ประเทศ เกิดภาวะขาดแคลน ซื้อของกักตุน ทำให้มีคำสั่งซื้อทะลักมาประเทศไทยจำนวนมาก จึงทำแผนสำรองสินค้าเกษตรไว้ด้วย

 


“ได้สร้างแบบจำลองสถานการณ์โรคระบาดไวรัส 6-12เดือน กรณีส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก จะต้องมีสต็อกในประเทศด้วย ไม่ให้ขาดแคลน เช่น ข้าว ที่ในประเทศใช้ 10 ล้านตัน จะขาดแคลนไม่ได้ ขณะเดียวกันมีออเดอร์ มันสำปะหลัง จากจีน จำนวนมาก เพื่อไปผลิตแอลกอฮอล์ เป็นโอกาสในวิกฤติ จะต้องกำหนดมาตรการผลิตภาคเกษตรทั้งระบบ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ  นี่คือโอกาสของไทยเพราะประเทศแหล่งผลิตใหญ่ กำลังเดือดร้อนหนักเช่น จีน อิตาลี สหรัฐฯ สิ่งสำคัญเราต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข อย่าตื่นตระหนก จะเกิดปัญหาการจัดการ จะปิดเมือง โดยไร้สาเหตุไม่ได้ ขณะนี้การดูแลในประเทศรัฐบาลสามารถดูแลได้ พร้อมกับดูแลเกษตรกร อย่างดีที่สุด”นายอลงกรณ์ กล่าว

 

ที่ปรึกษา​รมว.เกษตรกล่าวด้วยว่าสำหรับสถานการณ์น้ำ ในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาณ  39,898ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ52ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้15,972 ล้านลบ.ม..ในส่วนสถานการณ์น้ำ4เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสัก มีปริมาณน้ำรวมกัน 9ม581 ล้านลบ.ม. ร้อยละ39ของความจุอ่าง มีน้ำใช้การได้ 2,885 ล้านลบ.ม. ส่วนผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี2562 มีการใช้น้ำไปแล้ว 12,790 ล้านลบ.ม.หรือร้อยละ72 ของแผน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการใช้น้ำแล้ว3,457 ล้านลบ.ม.หรือร้อยละ77 ของแผน
 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ