ข่าว

สวนยางเดือดร้อนหนักโรคใบร่วงระบาดกว่า 330,000 ไร่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เฉลิมชัย สั่ง กยท.รวบรวมพื้นที่สวนยางพาราโรคใบร่วงระบาด คาดกว่า 330,000 ไร่ เตรียมใช้โดรนฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อรานำร่องนราฯ

 

 

12 พฤศจิกายน 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำรวจพื้นที่เสียหายจากโรคใบร่วงในยางพาราซึ่งพบที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และตรังรวมพื้นที่กว่า 330,000 ไร่แล้ว   

 

 

ทั้งนี้โรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ซึ่งไม่เคยเกิดในยางพารา ต้นยางที่ติดโรคจะใบร่วง ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และน้ำยางลดลงร้อยละ 30 – 50 ตั้งแต่พบการระบาดในเดือนกันยายน ประมาณการณ์ว่า ผลผลิตยางลดลงกว่า 40,000 ตันแล้ว จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไข โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. แพร่กระจายโดยลมและฝน หากมีมรสุมและฝนตกชุกในภาคใต้อีกครั้งจะทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก จึงเน้นย้ำให้หาแนวทางป้องกันไม่ให้ลุกลามในพื้นที่ปลูกยางทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ 
                

นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ร่วมกับกยท. ส่งเจ้าหน้าที่แนะนำเกษตรกรให้หมั่นสำรวจต้นยาง หากสังเกตเห็นทรงพุ่มไม่สดชื่น ใบเหลืองแจ้งกยท. พื้นที่เพื่อตรวจสอบอาการ ซึ่งหากเป็นโรคใบร่วงต้องใส่ปุ๋ยบำรุงดินเพื่อให้ต้นยางพาราสมบูรณ์แข็งแรงและใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราได้แก่  Benomyl Hexaconazole Thiophanate Methyl Triadimefon และ Difenoconazole พ่นบริเวณทรงพุ่มยาง นอกจากนี้ยังพบเชื้อราชนิดเดียวกันในวัชพืชใต้ต้นยางจึงจำเป็นต้องฉีดพ่นสาร Thiophanate Methyl ลงพื้นดินด้วย

 

ขณะนี้กำลังประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสซึ่งมีพื้นที่เกิดโรคมากที่สุดเพื่อขออนุญาตฝ่ายความมั่นคงในการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราในแปลงใหญ่ยางที่อำเภอแว้งเป็นพื้นที่นำร่องเนื่องจากระดับทรงพุ่มต้นยางสูงถึง 15-20 เมตร รวมทั้งจะจัดหาเครื่องฉีดพ่นแรงดันสูงมาเสริม  

 

นอกจากพื้นที่ที่พบการระบาดแล้ว ยังจำเป็นต้องฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราในพื้นที่โดยรอบที่มีความเสี่ยงติดเชื้อด้วย หากสปอร์เชื้อราถูกลมพัดพาไปจะเกิดโรคในพื้นที่ใหม่ได้ 

 

นายกฤษดากล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมทางวิชาการกับประเทศสมาชิกสภาวิจัยและพัฒนายางระหว่างประเทศ (IRRDB) ที่มาเลเซีย ขณะนี้ประเทศอื่นที่พบโรคใบร่วงได้แก่ อินโดนีเซียเสียหาย 2.3 ล้านไร่ มาเลเซีย 16,000 ไร่ อินเดีย ศรีลังกา 6,000 ไร่ นอกจากนี้ยังพบอาการใบร่วงของสวนยางในอินเดีย แต่ทางอินเดียระบุว่า เกิดจากเชื้อราสายพันธุ์อื่น ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรงดเคลื่อนย้ายทั้งยางชำถุง กิ่งตา และใบออกนอกพื้นที่ระบาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค 

 

สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น ทางกยท. กำลังหาแนวทางที่เหมาะสมซึ่งอาจเป็นการจ่ายค่าชดเชยตามพ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย มาตรา 49 (5) ใช้งบประมาณของกยท. จ่ายให้เกษตรกร 3,000 บาทต่อราย  ส่วนอีกแนวทางหนึ่งที่กำลังพิจารณาคือ ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการประกาศเขตภัยพิบัติซึ่งจะทำให้กรมส่งเสริมการเกษตรของบกลางจากรัฐบาลช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง หรืออาจสนับสนุนเป็นค่าสารป้องกันกำจัดเชื้อราและปุ๋ยบำรุงต้นยาง โดยอยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาด่วนที่สุด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ