ข่าว

ท้ามนัญญาห้ามนำเข้าสินค้าใช้ 3 สารที่ถูกแบน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สุกรรณ์ หนุนมาตรการยกเลิกนำเข้าผลไม้ต่างชาติหลังพบสารเคมีตกค้าง ท้าถ้าจริงใจห่วงใยสุขภาพคนไทยจริงต้องเบรกสินค้าที่ยังใช้ 3 สารที่ถูกแบน

 

2 พฤศจิกายน 2562 สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ระบุ รัฐต้องระงับการนำเข้าพืชผักที่มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมี 3 ชนิดที่กก.วัตถุอันตรายมีมติให้ยกเลิกใช้ ไม่นำเข้าจากอีกกว่า 100 ประเทศ เพื่อสุขภาพคนไทย เกษตรกรปลูกพืชผักปลอดภัยขายได้ 

 

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ากระทรวงเกษตรจะผลักดันห้ามมีการนำเข้าผลไม้ที่พบสารตกค้างจากต่างประเทศว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่นางสาวมนัญญาไทยเศรษฐ์ รมช. เกษตรฯ จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขห้ามนำเข้าผักผลไม้ที่มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและห่วงใยเกษตรกรที่ถูกผักผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านมาตีตลาด

 

จากผลการตรวจสอบครั้งนี้ทำให้เห็นว่า สารเคมีที่ตกค้างในผักผลไม้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรู แต่ไม่มีรายงานการพบสารป้องกันกำจัดวัชพืชโดยเฉพาะพาราควอตและไกลโฟเซตที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้ โดยให้มีผลในวันที่ 1 ธันวาคม

 

ทั้งนี้เนื่องจากการใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืชอย่างพาราควอตออกฤทธิ์โดยการสัมผัสและเลือกทำลายคือ ทำให้ส่วนที่เป็นสีเขียวของพืชไหม้ เกษตรกรจึงใช้ฉีดพ่นหญ้าและวัชพืชเท่านั้น ไม่ได้ใช้ฉีดในผักผลไม้หรือข้าวอย่างที่เอ็นจีโอให้ข้อมูลเนื่องจากหากฉีดในพืชผัก ไม้ผล หรือต้นข้าวจะตายหมด ไม่มีผลผลิตออกมาจำหน่าย ส่วนไกลโฟเซตจะดูดซึมเข้าสู่ระบบส่วนขยายพันธุ์ของวัชพืชซึ่งอยู่ใต้ดิน เกษตรกรไม่ใช้ฉีดในพืชประธาน

 

ทั้งนี้เมื่อประกาศกระทรวงอุตสาหกรรรมเรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายซึ่งห้ามพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส มีผลบังคับใช้ ทางสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยและสมาคมเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดจะเรียกร้องให้รัฐห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรทุกชนิดจากประเทศที่ยังใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดนี้ซึ่งปรากฏตามข้อมูลของสมาคมวิทยาการจัดการวัชพืชแห่งประเทศไทยได้แก่ พาราควอตยังคงมีใช้ใน 86 ประเทศ ไกลโฟเซตมีใช้ใน 161 ประเทศ และคลอร์ไพริฟอสมีใช้ใน 89 ประเทศ

 

หากผู้บริหารทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม เห็นว่าสารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไทยจนนำไปสู่การยกเลิกใช้ในไทยก็ต้องห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศที่ยังใช้อยู่ทั้งหมด อีกทั้งหากยังคงให้นำเข้าจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรไทยเนื่องจากเมื่อยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้ ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรจะสูงขึ้น แต่ประเทศอื่นที่ยังใช้อยู่ ต้นทุนการผลิตต่ำกว่า

 

ดังนั้นต้องเปิดโอกาสและส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตผักผลไม้ปลอดภัยออกมาจำหน่ายภายในประเทศเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-สารพิษอันตรายระวัง ผลกระทบ
-แบน 3สารเคมีเกษตรแค่จุดเริ่ม จับตาสารทดแทน-ช่วยเกษตรกร
-ผงะ สต็อก 3 สารพิษเหลือเพียบ

-วิษณุ ลั่นแบนสารพิษ คกก.วัตถุอันตราย มีมติก็จบ
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ