เร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแบน 3 สาร ขีดเส้นทำลายใน 6 เดือน เผยยังเหลือเกือบสามหมื่น ตัน
26 ตุลาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง คณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดแล้ว
ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่เคยใช้พาราควอตและไกลโฟเซตเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช ส่วนคลอร์ไพริฟอสนั้นใช้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช คณะทำงานจะต้องสำรวจจำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ สอบถามถึงสิ่งที่ต้องการให้รัฐเข้าไปช่วยเหลือ ตลอดจนหาสารทางเลือกที่เป็นทั้งสารเคมีอื่น สารชีวภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนเรื่องแรงงานและเครื่องจักรกลการเกษตรในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช หากต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น รัฐจะกำหนดมาตรการเยียวยาในอัตราที่เหมาะสม โดยจะเสนอให้ครม.เห็นชอบ
สำหรับการกำจัดสารเคมี 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอไพริฟอสซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ปรับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย และครอบครอง เมื่อกรมวิชาการเกษตรสำรวจปริมาณคงเหลือให้ชัดเจนแล้ว เมื่อประกาศการยกเลิกใช้ตามพ.ร.บ. วัตถุอันตรายมีผลบังคับใช้
กรมวิชาการเกษตรต้องอายัดทั้งหมดเพื่อทำลายต่อไป ทั้งนี้การทำลายวัตถุอันตราย 3 ชนิดซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีปริมาณคงค้างรวม 29,869.58 ตัน จะต้องหาวิธีทำลายที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะมีการทำลายสารเคมีวัตถุอันตรายจำนวนมากเช่นนี้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรคาดว่า กว่าจะทำลายได้หมดจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง