ข่าว

แฉฝ่ายต้านแบน 3 สาร ปล่อยข่าวนักการเมืองนำเข้ากลูโฟซิเนต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แฉฝ่ายต้านแบน 3 สาร ปั่นกระแสสังคม ปล่อยข่าวนักการเมืองนำเข้ากลูโฟซิเนตเก็งกำไร ชี้เป็นฝีมืออีกกลุ่มขั้วเจ้าใหญ่นำเข้าสาร นั่งคกก.วัตถุอันตราย

 

19 ตุลาคม 2562 นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิไบโอไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ว่า มีนักการเมืองต้องการแบน สารพาราควอตและไกลโฟเสต แล้วนำเข้าสาร “กลูโฟซิเนตแอมโมเนียม” ซึ่งเป็นสารเคมีควบคุมวัชพืชอีกชนิดมาแทนเพื่อเก็งกำไรนั้น

 

โดยบอกว่าจากการตรวจสอบสต็อกล่าสุดของสารกลูโฟซิเนตที่มีการนำเข้ายังน้อยกว่าไกลโฟเซตประมาณ 10 เท่า หากมีการแบนสารไกลโฟเซตและพาราควอตจริง คาดว่า จะมีหลายบริษัทที่ขอนำเข้าทั้งจากจีนและมาเลเซียซึ่งจะส่งผลให้ราคาจะลดต่ำอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริหารหน่วยงานระดับสถาบันในกรมวิชาการเกษตร ได้ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎว่า ราคาของสารกลูโฟซิเนตซึ่งนำมาใช้ทดแทนนั้นจะลดต่ำเหลือเพียง 150 บาทต่อลิตรซึ่งต่ำกว่าพาราควอต ด้วยที่ขณะนี้อยู่ที่ 170 – 180 บาทต่อลิตร

 

เมื่อพิจารณาถึงการเก็งกำไรของบริษัทสารเคมีกำจัดทางการเกษตรนั้น จากสถิติที่เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการนำเข้าพาราควอตเพื่อกักตุนในปี 2560 หลังกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้มีการแบนสารดังกล่าว โดยการนำเข้ากระโดดสูงเพิ่มขึ้นจาก 31,525,596 กิโลกรัม เป็น  44,501,340  กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นกว่า 41% และคลอร์ไพริฟอส  เพิ่มขึ้นจาก 2,071,128 เป็น  3,324,806 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 61%

 

จึงเห็นว่า การปั้นข่าวนักการเมืองเก็งกำไร สารกลูโฟซิเนตเป็นการพยายามปั่นกระแสเพื่อสร้างความชอบธรรมจากกลุ่มการเมืองอีกกลุ่มในการต่อต้านการแบนพาราควอตและไกลโฟเซต ทั้งนี้มูลนิธิไบโอไทยไม่เห็นด้วยต่อแนวทางการแบนสารพิษ 2 ชนิดและนำเข้าสารพิษอีกตัวเพิ่มขึ้น แต่ควรเสนอทางเลือกในการควบคุมจำกัดวัชพืชโดยใช้ เครื่องกลเครื่องจักรกล พืชคลุมดิน และการจัดระบบการปลูกพืชแทน

 

 

แฉฝ่ายต้านแบน 3 สาร ปล่อยข่าวนักการเมืองนำเข้ากลูโฟซิเนต

 

 

ธุรกิจสารเคมีวัตถุอันตรายมีผลประโยชน์มหาศาล แต่ละปีมีการนำเข้าหลายหมื่นล้านบาท ในปี 61 มีการนำเข้า 36,000 ล้านบาท เมื่อคิดเป็นมูลค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว และเป็นการนำเข้าสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท และเป็นการนำเข้าโดยเอกชนรายใหญ่ ขณะที่โครงสร้างกฎหมายไทยเอื้ออำนวย

 

เนื่องจากมีกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งแตกต่างจากในต่างประเทศหน่วยงานที่เป็นผู้เสนอให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย ซึ่งยกเลิกไปแล้วกว่า 50 ประเทศ เป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลโดยตรงถึงผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่ในประเทศไทยกลับไม่เป็นอย่างนั้น ส่งผลให้ไทย ยกเลิกใช้สารเคมีทำได้ยากมาก


โดยเฉพาะเอกชนที่นำเข้าสารเคมีเหล่านี้ได้รับการยกเว้นทั้งภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม คิดเป็นมูลค่าภาษีที่รัฐต้องสูญเสียรวมกว่า 10,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และบริษัทกลับส่งออกไปขายต่างประเทศ ผลประโยชน์จึงไม่ตกที่เกษตรกร แต่ไปอยู่ที่เจ้าของบริษัท 

 

แฉฝ่ายต้านแบน 3 สาร ปล่อยข่าวนักการเมืองนำเข้ากลูโฟซิเนต

 

 

กรมวิชาการเกษตร ขึ้นทะเบียนให้หลายบริษัท นำเข้าสารกูลโฟซิเนต มีอายุปี 61 -67 ถึง 37ทะเบียน ทดแทน พาราควอต ไกลโฟเซต

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อมูลการขึ้นทะเบียนสารเคมีตัวใหม่ คือสารกลูโฟซิเนต เพื่อทดแทนสารพาราควอต ไกลโฟเซต วัตถุอันตรายทางการเกษตร พบว่าในช่วงปี 2554-2560 มีการขึ้นทะเบียนสารกลูโฟซิเนตปีละ 4-7 ทะเบียน มีทั้งทะเบียนการนำเข้า ส่งออก และทะเบียนผลิต ต่อมาในปี 2561

 

หลังจากที่มีมาตรการห้ามนำเข้าและขึ้นทะเบียน พาราควอต และไกลโฟเซต ปรากฏว่า มีสารกลูโฟซิเนตมาขึ้นทะเบียนนำเข้า และผลิตรวม 37 ทะเบียน เพิ่มขึ้น 5-6 เท่าตัว ส่วนใหญ่ทะเบียนจะหมดอายุในปี 2567
ในปี 2554 บริษัทที่ขึ้นทะเบียนกลูโฟซิเนตคือ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด แหล่งผลิตมาจากเยอรมนี และมาเลเซีย ขึ้นทะเบียนประเภทส่งออก และมีอีก 2 บริษัท ขึ้นทะเบียนนำเข้า และ ผลิต แหล่งผลิตมาจากมาเลเซีย มาในระยะหลังมีบริษัทขึ้นทะเบียนกลูโฟซิเนตหลายบริษัท และแหล่งผลิตส่วนใหญ่มาจากจีนโดยเฉพาะในปี 2561 ในจำนวน 37 ทะเบียน เป็นทะเบียนนำเข้า15 ทะเบียน ที่เหลือเป็นทะเบียนผลิต มีบริษัทที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 16 บริษัท และมีแหล่งผลิตสารมาจากจีนถึง 34 ทะเบียน

 


ทั้งนี้ปีนี้ปริมาณนำเข้าพาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส ในช่วง 6 เดือนแรกของปี มีปริมาณนำเข้า 36,066 ตัน และปริมาณคงเหลือ 34,688 ตัน และรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเข้าสารเคมีทดแทนที่ชื่อ กลูโฟซิเนต แอมโมเนีย ในช่วง 8 เดือนแรก มีปริมาณ 1,308 ตัน 

 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ