สุนัขกินสารพิษ

          สวัสดีครับเรื่องสัตว์เลี้ยงคุยกันไม่จบง่าย ๆ ครับ จากเรื่องนั้นมาเรื่องนี้เพราะเค้ามีชีวิตและมีกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้คนเลี้ยงสัตว์จะพบเจอประสบการณ์ที่หลากหลายเคล้ากันไป แล้วแต่ประเภทของสัตว์เลี้ยง อุปนิสัยของสัตว์เลี้ยง กิจกรรมและสภาพแวดล้อม

      วันนี้หมออยากคุยถึงสุนัขก่อน เพราะหลายท่านเลี้ยงสุนัขในบ้าน และหลายท่านก็เลี้ยงสุนัขไว้บริเวณรอบนอกบ้านแบบอิสระ (แต่ไม่ควรให้อยู่นอกรั้วนะครับ) ซึ่งเป็นปัญหาเพราะบ่อยครั้งที่สุนัขไปรื้อค้นกัดกินยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือแม้แต่ซองยาที่ทิ้งขยะไว้โดยเราไม่เห็น คนเลี้ยงจึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติของสัตว์เลี้ยงเพื่อจะสามารถช่วย เหลือแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุขึ้น

      สิ่งที่เราควรทราบ คือ สารพิษมีหลายประเภท การปฐมพยาบาล การให้ความช่วยเหลือจะแตกต่างกัน เช่น ถ้าสุนัขกินสารพิษประเภท น้ำยาล้างเตาอบ น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาเคลือบพื้น น้ำยาขัดรองเท้า ที่สำคัญ คือ อย่าตกใจ และรีบย้ายสุนัขไว้ที่ปลอดภัยไม่ใกล้บันได หรือที่สูงเผื่อกรณีที่สุนัขดิ้น หรือชัก จากนั้นรีบพาสุนัขไปพบสัตว์แพทย์

      โดยควรที่จะติดต่อกับสัตวแพทย์ทันที เพื่อแจ้งว่าสุนัขสายพันธุ์อะไร อายุเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ กินสารพิษประเภทไหน และอย่าลืมเก็บสิ่งที่สุนัขกินเข้าไป หรืออาเจียนของสุนัข สิ่งที่สุนัขขับถ่ายออกมาใส่ถุงพลาสติกปิดให้สนิทแล้วนำไปให้สัตวแพทย์ดูด้วย เพื่อที่สัตวแพทย์จะได้เตรียมความพร้อมในการรักษาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

         อีกเรื่องที่หมออยาก ฝากคือ เวลาที่สุนัขของเรากินถูกสารพิษ หลายท่านมักจะเข้าใจว่าสิ่งแรก คือ การทำให้สุนัขอาเจียน แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำให้อาเจียนอาจจะเป็นการกระตุ้นให้ยิ่งเกิดอันตรายจากการดูดซึม หรือเกิดความระคายเคืองต่ออวัยวะสำคัญ สารพิษบางประเภทห้ามทำให้อาเจียนแต่ใช้การให้ยา หรือสารเพื่อขับ หรือเพื่อดูดซึมพิษ 

        ดังนั้นเวลาที่สุนัขกินสารพิษจึงต้องตั้งสติ และทราบให้ชัดเจนที่สุดว่าสารพิษที่กินคืออะไร และไม่ลืมที่จะนำฉลากที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสารพิษไปให้สัตวแพทย์ด้วย ระหว่างนั้นควรขอคำแนะนำจากสัตวแทย์ว่าจะต้องปฎิบัติอย่างไรระหว่างเดินทางไปพบสัตวแพทย์ 

    สำหรับคนเลี้ยงควรไม่ลืมที่จะป้องกันตัวเองไม่ให้สัมผัสกับสารพิษ หรือสิ่งที่สุนัขอาเจียน หรือขับออกมาด้วยการใส่ถุงมือป้องกันให้มิดชิด และบางครั้งต้องระวังสารพิษที่ติดตัว หรือขนของสุนัขด้วย แล้วเราจะสามารถใช้เวลาที่เป็นนาทีทองนั้นได้อย่างคุ้มค่าแก่การช่วยเหลือสุนัขแสนรักของเรา

         สุดท้ายที่หมออยากฝากคือ เก็บสิ่งที่เป็นอันตรายทั้งที่เป็นสารพิษ และของมีคมต่างๆ ให้มิดชิด ก็จะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดครับ