การเมืองเรื่องเงิน | คมชัดลึก

 แต่ถ้ายอมรับความจริงกัน ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งเงินทั้งในระบบและนอกระบบสะพัดเป็นปกติ แม้กระทั่งยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถกระบะหรือรถปิกอัพในห้วงเวลาเช่นนี้ ก็จะขายได้มากเป็นพิเศษ นี่จะเป็นดัชนีชี้วัดสิ่งใดหรือไม่ อาจไม่จำเป็นต้องยืนยัน เมื่อพูดถึงการเมืองไทยที่ต้องใช้เงิน หลายคนอาจจะจดจำโรคร้อยเอ็ดได้ โรคร้อยเอ็ด ปรากฏการณ์ที่อธิบายภาพครั้งเมื่อ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ หัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตย ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ร้อยเอ็ด เมื่อปี 2522

 ปรากฏการณ์ร้อยเอ็ดเกิดขึ้น เมื่อนายสมพร จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคสยามประชาธิปไตย ถึงแก่กรรมระหว่างดำรงตำแหน่ง การเลือกตั้งซ่อมครั้งนั้น มีพรรคการเมืองสำคัญที่ลงชิงชัย คือพรรคชาติประชาธิปไตย ซึ่ง พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่แตกต่างจากที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ มีคำกล่าวว่า “นายพลแพ้ไม่ได้” คำว่านายพลแพ้ไม่ได้ ทำให้ทีมหาเสียงของพรรคชาติประชาธิปไตย ใช้เงินหาเสียงกันอย่างเอิกเกริก ทั้งฉายหนังกลางแปลง จัดเลี้ยง แจกเงิน รวมแล้วใช้เงินไปประมาณ 30 ล้านบาท เมื่อ 30 ปีก่อน ในขณะที่ผู้สมัครคนอื่น พรรคการเมืองอื่น ก็ใช้เงินจำนวนมหาศาลเช่นกัน รวมกันแล้วราว 80 ล้านบาท ในที่สุด พล.อ.เกรียงศักดิ์ชนะเลือกตั้ง

 เมื่อมีการเกิดขึ้นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง มีการกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1.5 ล้านบาท นี่เป็นตัวเลขที่สะท้อนความคิดในเชิงอุดมคติ ที่ทุกคนก็รู้ว่าไม่เคยเป็นจริง ผู้สมัคร ส.ส.รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เขาใช้เงินในการหาเสียง ทั้งป้ายโฆษณา ทั้งค่าจ้างรถในการวิ่งหาเสียง และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้รวมเงินซื้อเสียง ถึง 5 ล้านบาท เพียงเท่านี้ก็เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดแล้ว และน่าสงสัยว่าถ้าไม่มีการร้องเรียน และอาจไม่มีการร้องเรียน เพราะทุกคนก็ทำเหมือนกัน กกต.จะไปหาใบเสร็จที่ไหนมาจัดการผู้สมัคร ส.ส.ที่ทำผิดกฎหมาย

 พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) บอกว่า ขณะนี้ ปปง.กำลังรอข้อมูลธุรกรรมการเงินทั้งหมดจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของแต่ละธนาคารว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และมีเงินหายออกไปจากระบบจริงหรือไม่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่ง ปปง.วิเคราะห์ธุรกรรมการเงินโดยแยกเป็นรายจังหวัดทั้ง ๗๖จังหวัด คาดว่าในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ จะแถลงให้ทราบว่าพบข้อมูลอย่างไร นี่เป็นความพยายามของ ปปง.ที่จะจับผิดผู้ใช้เงินหาเสียงเกินกฎหมายกำหนด แต่การเมืองเรื่องเงินในสังคมไทยเป็นของคู่กัน และผู้ใช้เงินก็มีความเชี่ยวชาญในการใช้ จนไม่มีใครจับผิดได้