
บสก.ดัน"ทำเกิน1ไร่ทำได้1แสน"ขายที่ดินให้เกษตรกร-ผ่อน3ปีดอกเบี้ย0%
บสก.ส่งโครงการ "ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน" สร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้เกษตรกร ใช้ชีวิตพอเพียง นำที่ดิน บสก.ออกขายให้เกษตรกรราคาพิเศษ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ หรือผ่อนชำระกับ บสก. 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0%
นางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า บสก.ได้สานต่อโครงการ พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ที่ได้ริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 โดยน้อมนำแนวพระราชดำริ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในปี 2554 บสก.ได้นำแนวคิด "ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน" เข้ามาประยุกต์ เพื่อให้มีการพัฒนาสู่รูปแบบที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้จัดทำแปลงสาธิตเกษตรประณีต เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจซื้อที่ดินเปล่ากับ บสก.ทั่วประเทศ โดยแบ่งลักษณะการใช้ประโยชน์ การทำเกษตรภายในพื้นที่ 1 ไร่ ด้วยการจัดสรรที่ดินออกเป็น 4 ส่วน ซึ่งเกษตรกรสามารถหมุนเวียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เกิดจากพื้นที่ 1 ไร่ ไว้บริโภคเอง หรือเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี และหากปฏิบัติได้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีแล้วจะสามารถสร้างรายได้ต่อปีมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป
"ในปี 2552 บสก.ได้เริ่มทำโครงการ พออยู่ พอกินกับที่ดิน บสก. ซึ่งยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาปีนี้ก็สานต่อด้วยแนวคิด ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร" นางสว่างจิตต์กล่าว
ด้านนายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวว่า แนวคิดของโครงการ "ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน" มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้น สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการคงไว้ซึ่งระบบการผลิตพืชอาหารของประเทศที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
สำหรับโครงการดังกล่าว ได้คัดทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่าที่มีอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งเห็นว่าเหมาะสำหรับโครงการนี้ มาจำหน่ายให้แก่ลูกค้าผู้สนใจในราคาพิเศษ นอกจากนี้ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ที่ดินเกษตรกรรมในโครงการ ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2554 รับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ หรือผ่อนชำระกับ บสก. 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0%
นายสุเมธกล่าวต่อว่า จากการดำเนินโครงการพออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ในช่วงระยะเวลา 2 ปี ทำให้สามารถจำหน่ายที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งเดิมจำหน่ายได้ยาก และมองไม่เห็นการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจนได้ทั่วประเทศถึง 2,986 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 207 ล้านบาท นอกจากจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อที่สามารถนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในเชิงเกษตรแล้ว ยังเป็นการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายของ บสก. อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจ และการสร้างชุมชนโดยรวมอย่างเข้มแข็งอีกด้วย