มาร์คล้มจ้ำเบ้าเตะบอลหาเสียงสวนอ้อย | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 7 มิ.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์เลือกตั้งกทม.พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ชุมชนสวนอ้อย เขตดุสิต ลงพื้นที่ช่วย น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี นายชื่นชอบ คงอุดม นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง

 ขณะที่นายอภิสิทธิ์ใช้โอกาสนี้เดินขอคะแนนตามรถยนต์ช่วงที่จราจรกำลังติดขัดอยู่ แต่ปรากฏว่าระหว่างเดินถึงกลางซอยมีผู้ชายนำผ้าขนหนูสีแดงคลุมไหล่และคาดหน้า พร้อมกับโบกผ้าสีแดงตะโกนลงมาจากชั้น 4 ของหอพักแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่มีเหตุรุนแรงอะไร

 จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินเข้ามายังลานกีฬาในร่มศูนย์เยาวชนสวนอ้อย เพื่อพบปะกับกลุ่มประชาชนและเยาวชนในชุมชนประมาณ 100 คนที่มานั่งล้อมวงฟังนโยบายด้านยาเสพติด ซึ่งนายอภิสิทธิ์ย้ำถึงนโยบายการจัดตั้ง “กองกำลังเฉพาะกิจ 315 ” ที่ทำมา 1 เดือนดำเนินคดีได้ 7 พันกว่าคดี รวมทั้งการติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ในเรือนจำที่เริ่มต้นแล้วที่เรือนจเขาบิน จ.ราชบุรี ที่มีแนวนโยบายจะขยายให้ติดตั้งในเรือนจำทั่วประเทศ เพิ่มสถานบำบัดและการคืนผู้เสพให้กับสังคมให้เป็นคนดี อย่างไรก็ตามเรื่องที่คุยวันนี้เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญในการเป็นรัฐบาล ดังนั้นถ้าให้โอกาสอีก 4 ปีตนจะทำให้ดีที่สุด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ได้เปลี่ยนชุดปราศรัยของพรรคมาใส่ชุดนักฟุตบอลสีฟ้าคาดชมพู-ดำ “ทีมหนุ่มสวนอ้อย” เบอร์ 10 เพื่อแข่งฟุตซอล 5 คนกับทีมเยาวชนชุมชนสวนอ้อย โดยมี น.ส.จิตภัสร์เป็นผู้เขี่ยบอล ทั้งนี้ทีมของนายอภิสิทธิ์ยังมีนายชื่นชอบ คงอุดม ร่วมทีมด้วย โดยกำหนดเวลาในการแข่งขันเพียง 10 นาทีเท่านั้น

 ทั้งนี้ทีมหนุ่มสวนอ้อยของนายอภิสิทธิ์ชนะไป 3 ประตูต่อ 0 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ยิงได้ 1 ประตู และระหว่างการแข่งขันนายอภิสิทธิ์ได้เสียหลักเซเถลาถอยล้มก้นจ้ำเบ้าไป 1 ครั้ง โดยภายหลังการแข่งขันนายอภิสิทธิ์ที่มีสภาพเหงื่อแตกและมีอาการหอบ  ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ล้มไม่เจ็บมือไม่ถลอกแค่แดงเฉยๆ

ฟิตตรวจด่านยาเสพติดสุขสวัสดิ์ตอนดึก

 เมื่อเวลา 22.00 น.นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่ากทม. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่ากทม. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่ากทม. เดินทางมาตรวจด่านสกัดยาเสพติด หรือด่านมั่นคงสุขสวัสดิ์ ใต้ทางด่วนสุขสวัสดิ์ ถนนสุขสวัสดิ์ (ระหว่างซ.สุขสวัสดิ์52-54) ตามนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล แผน 315 ที่มีกองกำลังผสมเฉพาะกิจประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้แก่ ตำรวจ ทหารและปปส.

 ทันทีที่ก้าวลงจากรถนายอภิสิทธิ์ก็ได้แวะทักทายกับกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจประมาณ 30 คนที่มามอบดอกไม้และพากันตะโกน "ประชาธิปัตย์เบอร์10" "อภิสิทธิ์สู้ๆ" "นายกสู้ๆ"

 จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้สอบถามแนวทางการทำงานของตัวแทนตำรวจ ปปส.และทหาร พร้อมทั้งได้ตรวจสอบโต๊ะปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่คอยลงบันทึกและตรวจปัสสาะผู้ต้องสงสัย รวมทั้งได้ยืนดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังตั้งด่าน

 นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลว่าการตั้งด่านต่อเนื่องได้หรือไม่ว่า ต้องทำให้ต่อเนื่องและต้องปรับรูปแบบ เพราะรูปแบบตายตัวทำให้ไหวตัวทันตามแนวทางของเขา ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นต้องจัดให้ลงตัว และ 2-3 เดือนจะมีการประเมินอีกครั้ง ทั้งนี้ เสียงสะท้อนชุมชนก็มีความพอใจถือเป็นรูปแบบที่ขยายผลได้มากขึ้น และที่จับผู้ค้ารายใหญ่ได้ก็จากการจับกุมผู้เสพ ซึ่งดีกว่าการใช้สายข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

 ส่วนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลทำให้ชะงักหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องถามพรรคต่างๆ ตนคงตอบแทนไม่ได้ ส่วนการดูแลขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนั้น ยอมรับว่ารูปแบบอาจยังไม่ลงตัวทั้งหมด เพราะมีเรื่องสิทธิประโยชน์และเบี้ยเลี้ยงอะไรต่างๆ

เด็กปชป.เชื่อแดงป่วนมาร์คจัดตั้ง

 นายโกวิทย์ ธารณา ผู้สมัครส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการติดตามพฤติกรรมการขัดขวางการรณรงค์หาเสียง นายอภิสิทธิ์ในสถานที่ต่างๆตลอด 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการจัดตั้งกลุ่มคน โดยเน้นใช้คนสูงอายุที่เป็นผู้หญิงมาคอยป่วนเป็นส่วนใหญ่ โดยไปดักรอเพราะรู้ว่าการลงพื้นที่หาเสียงต้องมีสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าว ซึ่งถือเป็นการลงทุนต่ำที่จัดตั้งคนเพียงไม่กี่คนแต่ได้ผลในการสร้างประเด็นข่าวรายวัน เพื่อมุ่งหวังทำลายความน่าเชื่อถือของนายกฯ และกระแสความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ทางหน้าสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ทุกอย่างทำเป็นขั้นตอน มีการจัดตั้งเป็นขบวนการมาอย่างดี โดยเฉพาะการชูประเด็น 91 ศพของเหตุการณ์ความวุ่นวายในการก่อม็อบเผาบ้านเผาเมือง และจุดประเด็นถามซ้ำซากในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงในทุกเรื่องที่มีคนเหล่านี้ไปถามทุกที่ ทุกคน ไม่เคยหนีหน้า

 นายโกวิทย์ กล่าวว่า แปลกใจที่กลับไม่มีใครไปดักรอถามถึงการฆ่าตัดตอน ที่ยัดคดีค้ายาเสพติด 2,500 ศพ หรือการล้อมปราบฆ่าพี่น้องมุสลิมที่มัสยิดกรือเซะหรือที่หน้า สภ.อ.ตากใบบ้าง และการที่แกนนำพรรคพื่อไทยตลอดจนแกนนำ นปช.ที่ปัจจุบันนี้ได้ปูนบำเหน็จเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ฟังไม่ขึ้น แล้วอย่างนี้จะมาเสนอนโยบายปรองดองได้อย่างไร เพราะเล่นสองหน้า แบ่งงานกันทำ ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย แล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้อย่างไร

"ยิ่งลักษณ์"ปิดภารกิจหาเสียงอุดรฯไม่มีกลุ่มต้าน

  เมื่อเวลา 17.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทยได้ เดินทางมาปราศรัยที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา โดยมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่ได้สวมเสื้อกันฝนฟังการปราศรัย ภายหลังปราศรัยเสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาที่บ้านพัก พล.อ.ประชา พรหมนอก เพื่อรับประทานอาหารค่ำกับแกนนำพรรคและผู้สมัคร ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

 ทั้งนี้ตลอดการเดินสายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งวันไม่พบกลุ่มต่อต้านหรือคัดค้านแต่อย่างใด

พท.เตรียมยื่นกองปราบ-กกต.ฟ้อง"แก้วสรร"

 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. เผยแพร่เอกสาร “ร่วมกล่าวโทษปู ... หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ทางเฟซบุ๊ค เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อกล่าวโทษน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยจะไปยื่นขอให้ดำเนินคดีกับนายแก้วสรร  ต่อกองบังคับการปราบปราม และตนจะยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อให้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ในวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 13.00 น.