
ทุ่มกว่า5หมื่นล้านปั้น"เพลินจิตซิตี้"5ธุรกิจยักษ์ผนึกกำลังดันเป็นแลนด์มาร์คกลางกรุง
5 พันธมิตรรายใหญ่ผนึกกำลังพัฒนา "เพลินจิต ซิตี้" มูลค่าลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ดันเป็นแลนด์มาร์คพรีเมียมใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดดึงเม็ดเงินสะพัดมหาศาลในอีก 2 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ภาคเอกชนรายใหญ่ในย่านถนนเพลินจิต-วิทยุ จากธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและสถาบันการเงิน ประกอบด้วย บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) และนายเลิศ กรุ๊ป แถลงถึงความร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจภายใต้ชื่อ เพลินจิต ซิตี้ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นแลนด์มาร์คระดับพรีเมียมแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เตรียมเปิดประตูรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการโครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เซ็นทรัลรีเซล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือของ 5 ธุรกิจในครั้งนี้ จะทำให้เศรษฐกิจในย่านเพลินจิตขยายตัวสูงขึ้น สร้างเม็ดเงินให้ประมูลอย่างมหาศาลในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งแผนการดำเนินงานในเฟสแรกนี้จะมุ่งสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ "เพลินจิต ซิตี้" รวมทั้งการลงทุนสร้างสะพานสกายวอล์กเชื่อมแต่ละโครงการในเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจ พร้อมต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส
"ในเบื้องต้นการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายต่างๆ ผู้ประกอบการแต่ละรายจะลงทุนเองทั้งสิ้น ในอนาคตเพลินจิต ซิตี้ จะมีการขยายเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจผู้ประกอบการในย่านนี้ รวมทั้งมีแผนการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้ประกอบการย่านเพลินจิต ในอนาคตอีกด้วย" นายชาติกล่าว
นอกจากนี้ การรวมกันครั้งนี้ยังเป็นการผลักดันมาตรการสนับสนุนทางด้านภาษีจากรัฐบาลใหม่ รองรับความเป็นย่านการจำหน่ายสินค้าระดับไฮเอ็นด์ หรือลักซ์ชัวรี่แบรนด์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และสอดรับนโยบายที่จะปั้นให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช็อปปิ้ง ซึ่งยังมีอุปสรรคในการทำตลาดด้วยกำแพงภาษีสูงถึง 30% ส่งผลต่อโครงสร้างราคาจำหน่ายที่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฮ่องกง สิงคโปร์
ด้าน นายธงชัย บุศราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโครงการโนเบิล เพลินจิต กล่าวว่า การรวมกลุ่มในครั้งนี้ จะมีความแตกต่างจากการรวมกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจในย่านราชประสงค์ ที่ส่วนใหญ่เป็นการเช่าพื้นที่จากสำนักงานทรัพย์สินฯ และไม่สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่อยู่อาศัยได้ แต่ย่านเพลินจิตสามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยได้ ทั้งยังมีองค์ประกอบของอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เชื่อว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า พื้นที่บริเวณรอบเพลินจิตราคาจะขยับขึ้นสูงมาอยู่ที่ 3 ล้านบาทต่อตารางวา จากปัจจุบันมีระดับราคา 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา เป็นพื้นที่มีราคาสูงสุดของกทม.