ข่าว

คู่ปรับเก่า...ทายาทตะกูลดังชิงเก้าอี้ส.ส.เขต4ชลบุรี

คู่ปรับเก่า...ทายาทตะกูลดังชิงเก้าอี้ส.ส.เขต4ชลบุรี

07 มิ.ย. 2554

“ชลบุรี” เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว บุคคลที่มีหัวทางการค้าเข้าไปยึดหัวหาดกุมพื้นที่สร้างอิทธิพลทางการค้ามายาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่พื้นที่ จ.ชลบุรี มีผู้กว้างขวางเต็มไปหมด

 และในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ จ.ชลบุรี ก็ถูกจับตาเป็นพิเศษว่าจะมีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา การเลือกตั้งทุกครั้งในพื้นที่นี้ จะมีการแข่งขันทางการเมืองสูงและเดิมพันด้วยชีวิตหัวคะแนน!!

 สนามเลือกครั้งที่ 24 นี้ จ.ชลบุรี แบ่งออกเป็น 8 เขตเลือกตั้ง มี ส.ส.8 คน เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ จ.ชลบุรี มีผู้แทนราษฎรมากที่สุดในภาคตะวันออกเลย ย้อนหลังศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งยกทีมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมือง จ.ชลบุรี เนื่องจากกลุ่มบ้านใหญ่ ไม่มีคนในตระกูล "คุณปลื้ม" ลงสมัครรับเลือกตั้ง ประกอบกับ "กำนันเป๊าะ" ไม่ได้คุมบังเหียนการเลือกตั้ง เพราะเกิดผลกระทบจากคดีทุจริตการซื้อที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยา 

 แต่ศึกเลือกตั้งปีนี้ พรรคประชาธิปัตย์รู้อยู่เต็มอกว่า เป็นเรื่องยากที่พรรคจะสามารถรั้งเก้าอี้ ส.ส.ไว้ได้ทุกเขต ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกระแสขาลงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคนเสื้อเหลือง ประกอบกับเขตการเลือกตั้งถูกหั่นเล็กลง มีพรรคท้องถิ่นเกิดขึ้น ขณะที่ผู้สมัครในหลายๆ เขตก็เป็นทายาทนามสกุลดัง ลงแข่งขันกับแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว

 การแข่งขันชิงชัยครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นการรขับเคี่ยวกันของ 3 พรรคการเมือง คือ ประชาธิปัตย์ พลังชล และเพื่อไทย โดยแชมป์เก่า พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง 7 อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิมลงครบ เสริมด้วยผู้สมัครหน้าใหม่ 1 คน นำทีมโดย นายประมวล เอมเปีย ขณะที่ พรรคพลังชล ของตระกูลคุณปลื้ม ผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก ตั้งเป้ากวาดที่นั่ง ส.ส.เฉพาะจังหวัดภาคตะวันออก 10-20 ที่นั่ง นายสนธยา คุณปลื้ม จึงส่ง นางสุกุมล คุณปลื้ม ภรรยา เป็นหัวหน้าทีมลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี ซึ่งโอกาสกวาดที่นั่ง ส.ส.นั้นมีความเป็นไปได้สูง เพื่อเข้าไปจับขั้วกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคกิจสังคม เพื่อหวังเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล

 ด้าน นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ลงสมัครแข่งกับนายบรรจบ รุ่งโรจน์ จากพรรคประชาธิปัตย์ในเขต 2 จ.ชลบุรี ร่วมทีมด้วยผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและใหม่ลงครบทั้ง 8 เขต โดยลึกๆ ก็แอบหวังแบ่งที่นั่ง ส.ส.ชลบุรี

 สำหรับการเลือกตั้งทั้ง 8 เขตเลือกตั้งของ จ.ชลบุรี มีพื้นที่ที่น่าจับตาที่สุด คือ "พื้นที่เขต 4" ประกอบด้วย อ.บ้านบึง อ.บ่อทอง และอ.หนองใหญ่ การแข่งขันการลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.นั้นดูจะรุนแรงมากที่สุด เพราะเป็นศึกชนช้างระหว่างทายาท 2 ตระกูลดังเก่าแก่ คือ “สิงห์โตทอง” กับ “เนื่องจำนงค์” โดย นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี สวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงทำศึกกับ “เสี่ยต้น” นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ขุนพลจากพรรคประชาธิปัตย์

 นายจิรวุฒิ เป็นลูกชายของ นายดรงค์ สิงห์โตทอง อดีต ส.ส.ชลบุรี หลายสมัยและยังเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพเพื่อการเกษตรชลบุรี อีกทั้งยังเคยเป็นอดีต ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไทยรักไทย มีเพื่อนฝูงมากมายทุกวงการ โดยเฉพาะบรรดาชาวไร่ ชาวสวนในชลบุรี ผูกขาดเป็นฐานคะแนนสำคัญให้ตระกูลสิงห์โตทองมายาวนาน

 ส่วน นายสรวุฒิ เป็นทายาทของ ดร.ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ มีประสบการณ์เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 มีฐานเสียงเก่าแก่ของพ่อและฐานเสียงของตัวเองก็มีอยู่ไม่น้อย ประกอบกับที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ขยันลงพื้นที่ และเข้ากับทุกกลุ่มได้ดี ทำให้การเลือกตั้งเมื่อปี 2550 นายสรวุฒิ ได้กำชัยเหนือ นายจิรวุฒิ มาแล้วครั้งหนึ่ง

 ด้าน พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า การเมืองช่วงเลือกตั้งนั้น ทางพื้นที่เขต จ.ชลบุรี ไม่น่าเป็นห่วงอะไรเกี่ยวกับเรื่องการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ เนื่องจาก สตช.ได้ให้นโยบายมาก่อนหน้านี้ และหลังการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวแล้วก็สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมีอาวุธอยู่ในครอบครองได้กว่า 100 ราย ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่จับกุมผู้กระทำความผิดได้มากอันดับต้นๆ ของประเทศ นั่นหมายความว่า มาตรการการป้องกันความรุนแรงนั้นได้ผลเป็นอย่างดี

 "ตอนนี้ยังไม่มีข่าวการเคลื่อนไหวมือปืนนอกพื้นที่เข้ามาในพื้นที่ และยังไม่มีความรุนแรงอะไร ส่วนหนึ่งมาจากการที่เรามีมาตรการที่ดี อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ชลบุรีนี้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการทำลายป้ายหาเสียงของคู่แข่ง ก็กำลังเร่งจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่" พล.ต.ท.ไถง กล่าว