นายกเล็กกะรนอ้างขัดข้องทางเทคนิค เหตุมีน้ำเสียไหลลงทะเล-ยันคุณภาพน้ำไร้ปัญหา | คมชัดลึก

 นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชี้แจงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กรณีนำเสนอภาพน้ำเสียไหลลงทะเลบริเวณชายหาดกะรน ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจ.ภูเก็ตว่า ทางเทศบาลได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกระบุว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงทะเล พบว่าในช่วงที่ภาพปรากฏสถานีดักน้ำเสียเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำเข้าสู่ระบบได้และเอ่อล้นไหลลงทะเล ซึ่งแนวทางแก้ปัญหามีการติดตั้งเครื่องสำรองไฟไว้ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาขึ้นอีก ประกอบกับในส่วนของผู้ประกอบการบริเวณชายหาดก็จะเป็นผู้แจ้งข่าวให้เทศบาลได้เป็นอย่างดีเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เพราะจะกระทบกับเขาโดยตรง

 “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน มีการเก็บตัวอย่างน้ำและนำไปตรวจสอบคุณภาพน้ำตรวจสอบทุกๆ 3 เดือน พบว่าคุณภาพน้ำบริเวณชายหาดกะตะและชายหาดกะรนมีความสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้นักท่องเที่ยวอย่ากังวลและลงเล่นน้ำได้ตามปกติ”

 นายทวี กล่าวด้วยว่า ในการแก้ปัญหาน้ำเสียในพื้นนั้น มีการจัดทำระบบระบายน้ำ ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เป็นระบบแบบลานกรองจุลินทรีย์ ร่วมกับระบบตะกอนเร่ง ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2544 ประกอบด้วย อาคารดักน้ำเสีย 9 แห่ง สถานีสูบน้ำเสีย 5 แห่ง ท่อดักน้ำเสีย และบ่อพักน้ำเสียในบริเวณถนนกะตะน้อย ถนนกะรน ถนนเกศขวัญ ถนนหลวงพ่อฉ้วน และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4233 สามารถรองรับน้ำเสียได้วันละ 6,000 ลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่เทศบาลตำบลกะรน และอยู่ระหว่างการดำเนินการในเฟสที่ 2 ซึ่งจะรองรับปริมาณน้ำเสียได้ประมาณ 4,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณปี 2556 ใช้งบประมาณ 132 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และบางช่วงก็เกินขีดความสามารถของระบบบำบัดที่มีอยู่รองรับได้

 การเกิดน้ำเสียส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของประชาชน เช่น การอาบน้ำ ซักล้าง ล้างรถ ประกอบอาหารเป็นต้น ซึ่งน้ำเสียที่เกิดขึ้นหากมีปริมาณมากก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย ซึ่งทางเทศบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหามลพิษเหล่านี้ จึงได้จัดทำโครงการระบบระบายน้ำ ระบบรวบรวม และบำบัดน้ำเสียขึ้น และในอนาคตอันใกล้ก็จะมีการจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียและน้ำทิ้ง เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบฯให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนรักษาสภาพแวดล้อมของหาดกะตะ-กะรนให้สวยงามตลอดไป คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า