
ปล่อยชีวิตไปตามเกลียวคลื่นกับ"ป๊อบ"ปิ่นยศ
หนุ่มวัย 30 กลางๆ ชื่อตามบัตรประชาชน ปิ่นยศ พิบูลสงคราม หรือ "ป๊อบ"อาจจะไม่เป็นที่รู้จักในวงสังคม ด้วยลำพังงานประจำกับการกุมบังเหียนตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการขายและการตลาด สายการบินนกแอร์ ที่ช่วงนี้หนักหนาเอาการเพราะต้องต่อสู้กับราคาน้ำมันโลกขึ้นๆ ลงๆ
ทว่าหากจับต้นชนปลายถึงที่มาที่ไป ซึ่งแจ้งเกิดในทะเบียนราษฎร์ฐานะเหลนทวดอดีตผู้นำประเทศผู้ยิ่งใหญ่อย่าง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยมากมายดูเหมือนจะง่ายกว่า จะสะกิดใจเล็กๆ ก็ตรงที่เจเนอเรชั่นนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้รับราชการเช่นเดียวกับรุ่นทวด รุ่นปู่ ประดาป ไล่มาจนถึงรุ่นพ่อ ประสงค์ พิบูลสงคราม หากเจ้าตัวก็ได้จิตวิญญาณการทำงานหนักเยี่ยงบรรพบุรุษ โดยแต่ละวันต้องสะสางและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการผลักให้สายการบินต้นทุนต่ำนี้สามารถแข่งขันบนท้องฟ้าที่คลาคล่ำไปด้วยเที่ยวบินให้ได้
นั่นเองจึงทำให้วันว่างของเขากลายเป็นสวรรค์ขนาดย่อมๆ เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสได้ออกกำลังกลางผืนน้ำและเกลียวคลื่น ส่วนหนึ่งหนุ่มป๊อปยอมรับว่าปะทุขึ้นจากความเครียด แต่ต้นตอจริงๆ ยิ่งกว่านั้นมาจากความลุ่มหลงในโลกใต้น้ำจนอยากพาตัวเองเข้าไปข้องแวะตั้งแต่จำความได้
"ผมสนใจโลกใต้น้ำมาตั้งแต่เด็ก ผมรักฉลามมาก จึงอยากดำน้ำไปสัมผัส เริ่มจากผิวน้ำพอมีโอกาสก็อยากดำน้ำลึกขึ้นจึงไปเรียนดำน้ำเป็นเรื่องเป็นราว ดำเรื่อยๆ สักพักราคาค่าคอร์สเริ่มแพง จึงเรียนจนเป็นครูสอนดำน้ำ แล้วก็มาสนใจเวกบอร์ด วินเซิร์ฟ แล้วก็เป็นไคท์เซิร์ฟ แล้วล่าสุดสนใจเซิร์ฟบอร์ดแต่เพิ่งหัดเล่นมาไม่ถึงปี แรงบันดาลใจมาจากทำงานอยู่นกแอร์อยากให้คนมาเที่ยวภูเก็ตเยอะๆ ช่วงหน้าฝน ก็ไปค้นหาข้อมูลว่าจะจัดกิจกรรมอะไรดี ก็พบว่าเซิร์ฟบอร์ดน่าจะเข้าท่า แล้วหาดกะตะคลื่นก็ดีที่สุดแล้วในภูเก็ต" ทายาทจอมพลผู้ยิ่งใหญ่ เล่า
อีกเหตุผลที่เขาไม่อาจละมือจากกีฬาทางน้ำแนวเอ็กซ์ตรีมได้ คงเพราะเป็นเรื่องของความอิสระยามได้ล่องลอยบนผิวน้ำและกลางอากาศ ชอบถึงขนาดนำเสน่ห์ที่ว่าไปตั้งชื่อให้ลูกสาวตัวน้อยสองคนคือ "น้องฟ้าใส" กับ "น้องน้ำฟ้า" ที่สำคัญเป็นความท้าทายไม่เหมือนกีฬาบนบก โดยเจ้าตัวยกตัวอย่างการเล่นฟุตบอล มีสนามและทำประตูได้ก็จบ แต่กีฬาทางน้ำต้องอาศัยปัจจัยทางธรรมชาติด้วย โดยเฉพาะคลื่นที่มากน้อยต่างกัน ความเร็วลม หรือวันดีคืนดีอาจตื่นเต้นสุดๆ เพราะอาจต้องเผชิญหน้ากับเจ้าสมุทรอย่างฉลาม ตัวใจดีก็โชคดีไป ถ้าเจอตัวร้ายก็คงต้องวัดกันที่ดวง
ว่าแล้วนักบริหารหนุ่มก็ทดสอบพละกำลังให้ชมเป็นขวัญตา วันนี้คลื่นลมที่หาดกะตะกำลังดี แต่ก่อนท้าแดดท้าน้ำก็ต้องปกป้องผิวด้วยการทากันแดดจากนั้นเลือกบอร์ดขนาดพอเหมาะกับสรีระ แล้วสวมที่รัดข้อเท้ากับบอร์ดเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะหอบบอร์ดคู่ใจอย่างทะมัดทะแมงวิ่งวงทะเล โดยไม่ลืมหันมาชูสองนิ้วฟ้องว่า "สู้ตายครับ"
ถึงจะฝึกฝนเซิร์ฟบอร์ดมาเมื่อไม่นานแต่อาศัยประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่กับกีฬาเอ็กซ์ตรีมก็ไม่ยากเลยสำหรับเขา ยืนบนบอร์ดโต้คลื่นได้อย่างเท่ๆ สลับกับการหล่นตุ๊บอยู่บ่อยๆ ก็ไม่เป็นปัญหา ถือว่าลีลาอยู่ในขั้นเทพน้อยๆ ทีเดียว
"ตั้งแต่เล่นมาก็เจออุบัติเหตุบ้าง หนักจริงๆ ก็เจอกระดานชนขาจนเป็นแผล แมงกะพรุนก็เคยโดน แต่อยู่ที่เราป้องกันนะ พวกที่เกิดปัญหามีอุบัติเหตุบ่อยๆ ก็เป็นจำพวกชอบโชว์ ทำให้ไม่เจ็บตัวเฉพาะตัวเอง แต่อาจจะไปเฉี่ยวชนกับคนเล่นน้ำก็มี แล้วกีฬาแบบนี้ควรว่ายน้ำเป็น ถ้าไม่เป็นอย่าเลยดีกว่า และไม่ควรเล่นคนเดียว ถ้าเจออุบัติเหตุอาจช่วยเหลือตัวเองไม่ได้" หนุ่มป๊อป แนะทริกซ์
แต่ไม่ว่าจะเอ็กซ์ตรีมาหลายรูปแบบแค่ไหน เจ้าตัวก็เทใจให้ไคท์เซิร์ฟที่สุด เพราะมองว่าเป็นศูนย์รวมของข้อดีของกีฬาทางน้ำ สังเกตง่ายๆ อย่างเซิร์ฟบอร์ดใช้วิธีว่ายน้ำไปแล้วรอคลื่น หรือเวกบอร์ดก่อนกระโดดได้ต้องอาศัยเรือ แต่ไคท์เซิร์ฟไปได้เลย อยากกระโดดก็กระตุกว่าวแล้วกระโดดได้สูงด้วย คือสูงถึง 5 เมตร ไกล 20 เมตร เล่นเอาสปีดก็ได้ ที่แน่ๆ สุดขีดระดับความมัน
"ประโยชน์ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เห็นๆ เลยคือร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน ทำให้สนุกมีความสุข แล้วร่างกายก็ฟิตแน่นอน เพราะการเล่นแบบนี้ได้เคลื่อนไหวมากและใช้กำลังทุกส่วน เล่นแล้วหุ่นดีมีกล้าม เทียบกับยกเวทเรายกขึ้นลงตรงๆ ไม่ได้เอี้ยวตัวไปมา หมุน บิด กล้ามเนื้อทุกส่วนได้เคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นเล่นไม่กี่ครั้งกล้ามก็ขึ้นแล้ว อีกอย่างคลื่นแต่ละลูกก็มาไม่เท่ากัน ฝึกให้เราวางแผนว่าจะเล่นอย่างไร ต้องได้เล่นบ่อยๆ แต่เราอยู่กรุงเทพฯ จะไปหาคลื่นที่ไหนเล่นได้ทุกวัน เล่นๆ หยุดๆ เลยไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่" ผู้บริหารหนุ่มผู้หลงใหลกีฬาท้าทาย แจง
ชั่วโมงนี้เขาพยายามฝึกพละกำลังให้ได้ที่ เพราะในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อาจได้โชว์ลีลากับมหกรรมกีฬาทางน้ำระดับโลก "ควิกซิลเวอร์ ไทยแลนด์ เซิร์ฟ คอมเพทิชั่น 2011" ซึ่งนกแอร์เกี่ยวก้อยควิกซิลเวอร์จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ถึงวันนั้นฝีไม้ลายมือจะเป็นอย่างไร คงต้องตามไปให้กำลังใจกันแล้วล่ะ...
เรื่อง/ ชาญยุทธ ปะวะขัง
ภาพ /ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์