ข่าว

เผยไทยมี2แนวทางต่อสู้คดีเขาพระวิหาร

เผยไทยมี2แนวทางต่อสู้คดีเขาพระวิหาร

31 พ.ค. 2554

"ทูตวีรชัย-ฮอร์ นัมฮง" แจงศาลโลกยกแรก เขมรซัดไทยรุกรานขอให้คุ้มครองพระวิหารชั่วคราว ทีม กฎหมายไทยสู้ 2 แนวทาง ยันศาลไม่มีอำนาจ-คดีจบตั้งแต่ปี 2505 "สุวิทย์” ย้ำไม่รับคำพิพากษา "มาร์ค" มึนคดีจบเกือบ 50 ปี กัมพูชาเพิ่งคิดประท้วง

ภายหลังนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นำทีมกฎหมายไปชี้แจงต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตามที่กัมพูชายื่นคำร้องให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาปราสาทพระวิหารปี 2505

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ศาลโลกเปิดการพิจารณาคำร้องที่กัมพูชายื่นขอให้ศาลสูงสุดของสหประชาชาติแห่งนี้ ตีความคำวินิจฉัยปี 2505 เกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร โดยให้ทั้งสองฝ่ายแถลงด้วยวาจารอบแรก ที่มหาศาลาแห่งความยุติธรรม ซึ่งการพิจารณาวันแรก เป็นการรับฟังคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้ศาลโลกออกคำสั่งฉุกเฉินให้ไทยถอนทหารจากพื้นที่พิพาท คาดว่าศาลจะมีคำตัดสินในประเด็นนี้ในหลายสัปดาห์ข้างหน้า แต่ในประเด็นพิพาทพรมแดนนั้น คาดว่าจะใช้เวลาหลายปี

เขมรจี้ไทยถอนทหาร

 นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา เป็นตัวแทนฝ่ายกัมพูชา แถลงต่อคณะผู้พิพากษา 16 คน ระบุว่า การรุกรานด้วยอาวุธในพื้นที่รอบปราสาทของกองทัพไทย เป็นภัยคุกคามอย่างมหันต์ต่อความมั่นคงและสันติภาพของภูมิภาค กัมพูชาจึงขอวิงวอนให้ศาลออกมาตรการรักษาสันติภาพ ป้องกันการทำลายปราสาทและพื้นที่โดยรอบ พร้อมย้ำว่า ไทยอยู่ภายใต้พันธกรณีที่จะต้องถอนทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาท และจะต้องเคารพอธิปไตยของกัมพูชา

 "ไทยไม่เพียงแต่ท้าทายอธิปไตยของกัมพูชา แต่ยังใช้การตีความคำพิพากษาปี 2505 มาเป็นเครื่องกำบังทางกฎหมายเพื่อรุกรานดินแดนกัมพูชา ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดและยอมรับไม่ได้ แม้ว่าในอดีตทหารสองฝ่ายปะทะกันหลายครั้ง แต่ไทยแสดงความก้าวร้าวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังเดือนกรกฎาคม 2551 เมื่อองค์การยูเนสโกขึ้นบัญชีปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ปัจจุบันทหารทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้าเป็นรายวัน และไทยอาจประพฤติก้าวร้าวครั้งใหม่อีกเมื่อใดก็ได้ จึงถึงเวลาแล้วที่กฎหมายระหว่างประเทศจะต้องเข้ามาชี้ขาด" นายฮอร์ นัมฮง กล่าว

"กษิต"มึนกัมพูชาลากขึ้นศาล

 ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ไทยไม่แย้งประเด็นที่กัมพูชาเป็นเจ้าของปราสาทพระวิหาร แต่ทั้งสองประเทศยังอยู่ระหว่างเจรจาทำความตกลงเรื่องพรมแดนที่เป็นข้อพิพาท ยืนยันว่าคำพิพากษาปี 2505 ไม่ได้ครอบคลุมในประเด็นนี้

 "เราไม่เข้าใจว่าเหตุใดเราจึงต้องมาที่นี่ ในเมื่อเรามีกลไกเจรจาเรื่องชายแดนอยู่แล้ว" นายกษิตกล่าว

 รมว.ต่างประเทศ กล่าวอีกว่า นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำกรุงเฮก ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทย จะกล่าวเป็นคนแรก เพื่อนำเสนอข้อมูลในภาพรวม ตามด้วยที่ปรึกษากฎหมายของไทยทั้ง 3 คน คือ ศ.อลัง เปลเลต์ จะกล่าวเกี่ยวกับขอบเขตของประเด็นปัญหา ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด จะกล่าวเกี่ยวกับขอบเขตทางกฎหมายที่ศาลจะใช้ในการพิจารณาคำร้อง ขณะที่ ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ จะกล่าวเกี่ยวกับคำขอเรื่องการออกมาตรการชั่วคราวของกัมพูชา

ไร้เงาเขมรบุกประท้วง

 นายธานี ทองภักดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงเฮกว่า ในส่วนของผู้พิพากษาเฉพาะกิจนั้น ไทยเสนอชื่อ ศ.ฌอง-ปิแอร์ คอต ชาวฝรั่งเศส ในฐานะประธานชมรมกฎหมายระหว่างประเทศของประเทศฝรั่งเศส เคยเป็นทนายความคดีในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหลายคดี และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ ส่วนการเตรียมเอกสารทางกฎหมาย ส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นภาษาฝรั่งเศส

 “ไทยเชื่อมั่นในคุณสมบัติ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของทีมกฎหมายระหว่างประเทศของไทย จึงสามารถมั่นใจได้ว่าบุคคลเหล่านี้จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพื่อรักษาและสนับสนุนผลประโยชน์ของประเทศไทยในการตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารอย่างยุติธรรม” นายธานีกล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามถึงบรรยากาศหน้าศาลโลกว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงชาวกัมพูชามาชุมนุมหรือไม่ เพราะฝ่ายกัมพูชาเคยระบุว่าจะชักชวนไปชุมนุม นายธานีกล่าวว่า ทราบว่ามีการยื่นขออนุญาต แต่ระหว่างเดินทางเข้ามาที่ศาล ไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด

ไทยงัด2แนวทางสู้คดี

 วันเดียวกัน เมื่อเวลา 18.00 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงเฮกว่า ฝ่ายกัมพูชาให้ข้อมูลต่อศาลโลกเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีนายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา และที่ปรึกษาทางกฎหมายชาวอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นผู้ขึ้นให้การต่อศาลโลก เนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวย้ำข้อความตามเอกสารคำร้องที่ระบุว่า ไทยและกัมพูชามีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องความหมายของคำพิพากษาของศาลโลกปี 2505 จึงขอให้ศาลตีความขอบเขตและความหมายของคำพิพากษาเพิ่มเติมให้ชัดเจนขึ้น

 "ฝ่ายกัมพูชายังระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยรุกรานเข้าไปในเขตอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาที่อยู่บริเวณปราสาทพระวิหาร จึงขอให้ศาลออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขัดแย้งทางทหารขยายตัวไปอีก" นายชวนนท์กล่าว

 นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ฝ่ายไทยได้ประชุมเตรียมการย้ำถึงแนวทางการเตรียมการโต้แย้งคำร้องขอที่กัมพูชาให้การต่อศาลทันที โดยมี 2 แนวทางหลัก คือ 1.โต้แย้งขอบเขตอำนาจศาล โดยเสนอว่า ศาลไม่มีอำนาจพิจารณาในประเด็นนี้ จึงไม่สามารถออกมาตรการใดๆ ได้ และ 2.ประเทศไทยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลกปี 2505 ครบถ้วนแล้ว จึงไม่มีข้อสงสัยเรื่องใดๆ อีกที่จะให้ศาลโลกตีความหรือมีคำสั่งเพิ่มเติม

"ทูตวีรชัย"นำทีม 3 มือก.ม.แจง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงเฮก นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำกรุงเฮก จะขึ้นกล่าวเป็นคนแรกด้วยภาษาฝรั่งเศส เพื่อนำเสนอข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับนโยบายและท่าทีของไทย และบริบททางการเมืองและความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ตามด้วยที่ปรึกษากฎหมายของไทยทั้ง 3 คน เริ่มจาก ศ.อลัง เปลเลต์ ซึ่งจะชี้แจงเกี่ยวกับคดีปราสาทพระวิหารว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเส้นเขตแดน และไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลโลกแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องตีความอีก

 จากนั้น ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด จะกล่าวในประเด็นเรื่องเขตอำนาจศาลว่า คำขอของกัมพูชาเกี่ยวกับการตีความคำพิพากษาและการออกมาตรการชั่วคราวอยู่นอกเขตอำนาจศาล ส่วน ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ จะวิเคราะห์เกี่ยวกับคำขอเรื่องมาตรการชั่วคราวของกัมพูชาว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และไม่มีความสมดุล อีกทั้งที่ผ่านมามีความคืบหน้าเกี่ยวกับการส่งคณะผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียมายังประเทศไทย

 ทั้งนี้ วันที่ 31 พฤษภาคม ศาลโลกกำหนดให้กัมพูชาแถลงอีกครั้งในเวลา 10.30-11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 15.30-16.30 น. ตามเวลาในไทย และให้ไทยแถลงในเวลา 17.00-18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 22.00-23.00 น.ตามเวลาในไทย

 เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย คณะดำเนินคดีฝ่ายไทยเริ่มแถลงต่อศาลโลก กรณีกัมพูชาขอมาตรการชั่วคราวสืบเนื่องกับคดีปราสาทพระวิหาร โดยชูประเด็นไทยต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณชายแดนติดกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี และย้ำว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีกัมพูชาในกรณีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เมษายน และพฤษภาคม แต่เป็นฝ่ายถูกโจมตี ทำให้ไทยต้องใช้สิทธิปกป้องอธิปไตย และนำเสนอต่อศาลโลกด้วยว่า "กัมพูชาต้องการดินแดนที่จะใช้สำหรับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารเพื่อให้กระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกสมบูรณ์ ซึ่งรุกล้ำเข้ามาในฝั่งไทย นอกจากนั้น ที่ผ่านมากัมพูชารับการตีความเส้นขอบเขตบริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหารตามมติ ครม.พ.ศ.2505 ไม่เคยทักท้วง แต่เพิ่งเปลี่ยนท่าที เพราะต้องการผลักดันปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลก และยอมรับว่ายังต้องเจรจากำหนดเส้นเขตแดนโดยลงนามบันทึกความเข้าใจปี 2543 เพื่อจัดทำหลักเขตตลอดแนวรวมบริเวณปราสาทพระวิหาร"

 ขณะที่ ศ.อลัง เปลเลต์ ที่ปรึกษากฎหมายของไทย ชี้แจงคำขอตีความและคำขอมาตรการชั่วคราวของกัมพูชาอยู่นอกเขตอำนาจของศาลโลก และย้ำว่า ไทยไม่ต้องการอ้างอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร จึงไม่มีความเห็นที่แตกต่างในประเด็นที่กัมพูชาเสนอสู่ศาลโลก ซึ่งส่งผลให้ศาลไม่มีอำนาจตีความและออกมาตรการชั่วคราวแต่อย่างใด

"สุวิทย์"ลั่นไม่รับคำพิพากษา

 นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจามรดกโลกฝ่ายไทย กล่าวว่า ไทยไม่รับอำนาจของศาลโลกอยู่แล้ว ดังนั้นการดำเนินการโดยกัมพูชาที่ขอให้ศาลโลกตีความใหม่ เพื่อให้เกิดความคุ้มครองชั่วคราวตามข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ โดยอ้างว่าอยู่ในพื้นที่ของกัมพูชานั้น ตามกระบวนการของศาลโลก ซึ่งต้องตีความให้คุ้มครองชั่วคราว ก็ไม่น่าจะมี ถ้ามีเท่ากับว่าศาลโลกมีคำพิพากษาออกมาเป็นคำสั่ง แต่ไทยไม่อาจยอมรับได้ เพราะถือว่าไทยไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลโลก

 "เชื่อว่าคณะทำงานของกระทรวงการต่างประเทศจะต่อสู้ในประเด็นนี้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันหากศาลโลกมีความเห็นใดออกมา อาจจะมีหรือไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่พระวิหารของคณะกรรมการมรดกโลก ที่เตรียมประชุมในวันที่ 19-29 มิถุนายนนี้ โดยกระบวนการเมื่อศาลโลกรับฟังข้อมูลของทั้ง 2 ประเทศ จะใช้เวลาตัดสินอีก 3-4 เดือนข้างหน้า โดยส่วนตัวเชื่อว่าศาลโลกจะไม่คำตัดสินออกมา เพราะเรื่องนี้มีคำพิพากษาตั้งแต่ 50 ปีก่อน และกัมพูชาก็ไม่ทักท้วงอะไร การขอมาตรการคุ้มครองชั่วคราวจึงไม่น่าจะมีผลอะไร" นายสุวิทย์กล่าว

"มาร์ค"งงผ่านมา50ปียังไม่จบ

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องของการพิจารณากรณีที่กัมพูชาร้องขอมาตรการชั่วคราว หลักคือ ไม่มีความจำเป็นที่ออกมาตรการนี้ อีกทั้งเป็นคำขอก้าวล่วงไปเกินเลยจากคำพิพากษาเดิม และคำตีความที่กัมพูชาพยายามเสนออยู่ ดังนั้นเราจึงต่อสู้ทั้งในแง่ของความจำเป็น ขอบเขตอำนาจของศาล และตัวข้อเท็จจริงของการนำเสนอ โดยหลักของเราคือ เมื่อกัมพูชาชนะคดีในรอบที่แล้ว รัฐบาลไทยได้กำหนดขอบเขตวิธีปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก และทำมาตั้งแต่ปี 2505 ซึ่งกัมพูชาไม่ได้โต้แย้ง ดังนั้นตรงนี้ควรจบไปนานแล้ว