
สับปะรดปัตตาเวียสายพันธุ์ใหม่ เก็บได้ 1 เดือน-รสชาติไม่เปลี่ยน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียซึ่งมีการปลูกมายาวนานในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้อนโรงงานสับปะรดกระป๋องนั้น ยังไม่มีหน่วยงานใดสนใจไปพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น
กระทั่งล่าสุด "พีระ สุกิจปาณีนิจ" กำนันตำบลไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสับปะรดปัตตาเวียสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือเก็บได้นาน 30 วัน โดยที่รสชาติยังหอมหวานเช่นเดิม
พีระ บอกว่า ตระกูลของเรายึดอาชีพปลูกสับปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวียส่งโรงงานมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว ที่ผ่านมายอมรับว่าสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียไม่เคยได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เหมือนกับพืชเศรษฐกิจอย่างอื่น อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง หรือพืชสวน และพืชไร่อื่นๆ ที่พัฒนาไปไกลมาก ทั้งที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์มีการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของสับปะรดของประเทศไทย หรือของโลก เพราะมีพื้นที่ปลูกสับปะรดเพื่อส่งออกมากที่สุดในโลก รวมถึงยังไม่เคยได้รับการพัฒนาด้านกลไกการตลาดด้วย จึงพยายามพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี และได้ทดลองมาหลายปีจนหมดทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท ตอนนี้ได้สายพันธุ์ใหม่แล้ว ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ขณะนี้ยังไม่ตั้งชื่อ และยังไม่ได้นำหน่อพันธุ์ไปจดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ส่วนการพัฒนาสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียในครั้งนี้ พีระ บอกว่า ใช้วิธีการเก็บหน่อพันธุ์ที่มีลักษณะดีจำนวนหนึ่งมาปลูกในแปลงสาธิตจำนวน 1 ไร่ จากนั้นคัดเอาเฉพาะต้นพันธุ์ที่มีผลผลิตดีที่สุด มีความสมบูรณ์ ปรากฏว่าผลจากการทดลองปลูกพบมีจุดเด่นที่แตกต่างจากพันธุ์เดิมคือ เก็บได้ในอุณหภูมิปกตินานกว่า 30 วัน โดยที่รสชาติและเนื้อเยื่อไม่เปลี่ยนแปลง และยังมีความฉ่ำ ส่วนสีเนื้อมีสีเหลืองทอง กลิ่นหอม เนื้อแข็ง ตาตื้น สามารถนำมาบริโภคได้ทั้งผลสดหรือส่งโรงสับปะรดกระป๋อง ขณะที่สับปะรดปัตตาเวียพันธุ์เดิมเก็บได้นานไม่เกิน 7 วัน เท่านั้น ส่วนลักษณะของสับปะรดปัตตาเวียพันธุ์ใหม่ที่ว่านี้ หากดูภายนอกมีรูปทรงกระบอก น้ำหนักเฉลี่ยผลละ 2.5 กิโลกรัม มีทั้งประเภทที่มีรสหวานและรสเปรี้ยว
กำนันตำบลไร่เก่า บอกอีกว่า ผลสำเร็จในการพัฒนาสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียสายพันธุ์ใหม่นี้ ตั้งใจที่จะให้เป็นความภาคภูมิใจของคนทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้ยังไม่นำออกมาจำหน่าย และยังส่งโรงงานสับปะรดกระป๋องเนื่องจากต้องรออีกระยะหนึ่ง
"ตอนนี้ผมพร้อมพิสูจน์ หากมีนักวิชาการจากต่างประเทศที่ให้ความสนใจในการพัฒนาสายพันธุ์มาอย่างยาวนาน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ผมขอฝากบอกกับทุกฝ่ายว่าจะเป็นนักวิชาการ หรือองค์กรเอกชน (เนจีโอ) สับปะรดสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรมแต่อย่างใด เพราะผมไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ไม่มีห้องทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ ขณะนี้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งในพื้นที่และในส่วนกลาง ก็ยังไม่ทราบว่ามีผลผลิตสับปะรดที่มีอายุยาวนานกว่าเดิมหลายเท่า" เขา กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ระพี มองว่า หากมีการขยายสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ จะเป็นผลดีกับภาคการผลิตของเกษตรกรที่จะผลิตสับปะรดส่งโรงงานและผลิตเพื่อบริโภคผลสด รวมทั้งเป็นผลดีในการขยายตลาดสับปะรดผลสดออกไปต่างประเทศ เพราะสับปะรดสายพันธุ์นี้เก็บได้นาน ไม่มีปัญหาด้านระยะเวลาในการขนส่ง สามารถเก็บได้นานถึง 30 วันโดยที่รสชาติไม่มีการเปลี่ยนแปลง
"อภิชาติ หงษ์สกุล"