ข่าว

"มาร์ค"งง"ณัฐวุฒิ"ร้องยุบพรรคปชป.

"มาร์ค"งง"ณัฐวุฒิ"ร้องยุบพรรคปชป.

24 พ.ค. 2554

"อภิสิทธิ์"งง"ณัฐวุฒิ"ร้องยุบพรรค ย้ำปชป.ไม่เคยใส่ร้ายใคร จี้เพื่อไทยเล่นการเมืองโปร่งใส อย่ามีวาระซ่อนเร้น ด้าน"เทพเทือก" เปล่าใส่ร้าย ระบุ มีหลักฐานแกนนำเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองและเรื่องอยู่ในศาลแล้ว ชี้ เป้านิรโทษกรรมไม่ใช่แค่"ทักษิณ" แต่รวมถึงเสื้อแดงด

(24พ.ค.) เวลา 07.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่าทหารช่วยพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่า ตนยืนยันว่าการเลือกตั้งปีนี้ไม่เหมือนเมื่อปี 2548 เมื่อถามว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ คอยแหย่จะเป็นจุดเปลี่ยนของกระแสพรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “ คุณทักษิณก็แหย่มาอยู่เรื่อย เหตุการณ์ชุมนุมเสื้อแดงทุกครั้งคุณทักษิณก็แหย่มาทั้งนั้น ”

 เมื่อถามถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรค ไปใส่ร้ายป้ายสี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าหมายถึงการไปพูดอะไรที่ไหนอย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายใคร พรรคประชาธิปัตย์เสนอแต่ข้อเท็จจริงมุมมอง และทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นประเด็นสาธารณะทั้งนั้น เมื่อถามว่าความจริงที่นายณัฐวุฒิเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงเราสามารถพูดถึงได้หรือไม่ และจะถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า   “ คุณณัฐวุฒิจะปฏิเสธมั๊ยละครับว่าตัวเองไม่ใช่เสื้อแดง ”

 เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการปรับยุทธศาสตร์การหาเสียงในโค้งสุดท้ายด้วยการพูดถึงการแก้ปัญหามากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์มียุทธศาสตร์อย่างไรที่จะแก้เกมบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมัวแต่พูดถึงการแก้ปัญหาให้พรรคพวกตัวเอง ตนก็เรียกร้องมาตลอดว่าให้มาทำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่า เสนอแต่นโยบายที่เป็นเรื่องของประชาชน และดีที่สุดคือใครเป็นรัฐบาลก็ควรจะแก้ปัญหาของประชาชน อย่าไปสร้างปัญหาด้วยการแก้ปัญหาให้นักการเมืองด้วยกันเอง

 เมื่อถามว่าแต่วันนี้ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยชูประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาจจะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถึงบอกว่าครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าบ้านเมืองควรจะเดิน และก้าวพ้นประเด็นเหล่านี้ และไปมุ่งแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยจะทำให้การเมืองไทยติดหล่มอยู่อย่างนี้ กับเรื่องปัญหาการถกเถียงกันเรื่องการนิรโทษกรรมล้างความผิด   เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยอ้างว่าเรื่องเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ในนโยบาย พร้อมบอกว่าถ้าได้เสียงข้างมากเท่ากับประชาชนให้ฉันทามติให้เข้ามาทำแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องระมัดระวังเพราะเวลาไปหาเสียงกับประชาชนกลุ่มต่างๆบางทีเขาไม่พูดเรื่องแบบนี้ บางทีเขาไปพูดเรื่องอื่นซึ่งทำให้ประชาชนสนับสนุนเขา

 “ ผมคิดว่าทั้งหมดทำการเมืองให้โปร่งใสเถอะครับ อย่ามีวาระซ่อนเร้น เดินหน้าในการเอาปัญหาของประชาชนมาพูดกัน นโยบายต่างๆ ว่าจะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน หรือการแก้ปัญหายาเสพติกกันอย่างไร ส่วนจะถูกหรือจะผิด ผมคิดว่าน่าจะให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่แน่นอนว่าในแง่ของการปรองดอง สมานฉันท์ บางทีก็มีมาตรการข้อเสนอแนะซึ่งอาจจะช่วยทำให้กระบวนการยุติธรรมสามารถที่จะผ่อนปรนในบางเรื่องได้ แต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำอยู่ตลอดในรูปแบบที่ตั้งคณะกรรมการอิสระ และดูประเด็น เช่น เรื่องการประกันตัว การเยียวยา ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรกระทำเพื่อให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรณณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะฟ้องร้องต่อณะกรรมกการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนไม่ได้กล่าวถึงว่าผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย แต่เรียนให้พี่น้องประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตุและพิจารณาว่า ในบรรดาผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อประมาณ 22 คน มีบางคนมีพฤติกรรมซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการก่อการร้าย การเผาบ้านเผาเมืองชัดเจน เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้น  ที่ตนพูดก็ไม่ใช่เรื่องใส่ร้ายพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็คงจำภาพเหล่านี้ได้ เพราะว่าการกระทำของนายจตุพรก็ดี นายณัฐวุฒิก็ดี และคนเหล่านี้อีกจำนวนมาก เขากระทำการอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมืองใดๆ  เขาประกาศชักชวนให้คนไปเผาบ้านเผาเมืองเผาศาลากลาง ชักชวนคนไปปล้นทรัพย์ เขาได้กระทำการซึ่งมีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน สื่อมวลชนก็นำข่าวออกไปเผยแพร่ ทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งตนได้เก็บรวบรวมหลักฐานเหล่านี้ไว้ทั้งหมด

 นายสุเทพ กล่าวว่า ตนอยากจะกราบเรียนว่าตนไม่ได้พูดอะไรที่เกินเลยจากความเป็นจริง คนเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองจริง แล้วก็คนเหล่านี้ถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนส่งฟ้องศาลแล้วและศาลก็รับฟ้องแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวออกมา

 “ผมอยากชี้ให้เห็นว่าคนเหล่านี้ นอกจากมีพฤติกรรมที่ทำลายบ้านทำลายเมืองเผาบ้านเผาเมือง สร้างความโกลาหลวุ่นวายก่อจลาจลแล้ว วันนี้พยายามที่จะผันตัวเองมาเป็นส.ส. เพื่อที่จะได้อาศัยเอกสิทธิ์ ในฐานะที่เป็นส.ส. ไม่ต้องขึ้นศาล และจะได้ประวิงเวลาในการต่อสู้ และผมไม่สงสัยเลยทำไมพรรคเพื่อไทยถึงพยายามชูนโยบายว่าจะล้มเลิก ล้างความผิดทั้งหลายให้กับคนที่ได้ทำความผิด ผมก็เลยเข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณ เพียงคนเดียวแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะล้างความผิดให้ แต่รวมทั้งคนที่ได้มีพฤติกรรมเป็นผู้ก่อการ้ายเผาบ้านเผาเมืองเหล่านี้ไปด้วย เพราะฉะนั้นผมได้ทำหน้าที่เพื่อที่จะเอาความจริงมาเรียนให้ตระหนักก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผู้แทนฯ คราวนี้” นายสุเทพกล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนอื่น ๆ ห่วงว่าสิ่งที่พูดจะกระทบต่อการหาเสียงและคะแนนเสียงของพรรคหรือไม่นายสุเทพกล่าวว่า ที่ประชุมพรรคยังไม่ได้หารือกัน แต่ที่ตนพูดเพราะเคยทำหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ทราบข้อมูลเหล่านี้ชัดเจนและเป็นเรื่องที่ตนนำไปอภิปรายในสภาฯ และได้พิมพ์เป็นหนังสือ 

 "ผมเป็นผู้นำเสนอข้อมูล ส่วนประชาชนเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ หลายคนอาจจะกังวลใจเหมือนผมว่า ถ้าขืนเลือกบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเข้าไปมาก ๆ นายจตุพร นายณัฐวุฒิก็ได้เข้าเป็นส.ส. บรรดาผู้ก่อการร้ายเหล่านี้เข้าไปเป็นส.ส.เผลอ ๆ บางคนได้เป็นรัฐมนตรี โอ้... บ้านเมือง บ้านเมืองจะเป็นไงครับ”นายสุเทพกล่าว

 นายสุเทพ กล่าวอีกว่า  ตนยืนยันว่าเพูดความจริง ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร เรื่องที่พูดแป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้ว พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นพยานได้ มีหลักฐาน มีเทป วีดีโอ ภาพและเสียงของคนเหล่านี้อยู่ และยืนยันได้เหนือกว่า คำอธิบายของตนในวันนี้คือมันมีอยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่แล้วส่งให้อัยการ ซึ่งศาลก็รับฟ้องแล้วด้วย  และเรื่องนี้มั่นใจว่าต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ เพราะตนพูดจาด้วยความระมัดระวัง พูดเฉพาะจำเป็น ที่จริงยังมีอีกมากกว่านี้ที่สมควรที่ประชาชนคนไทยควรได้รู้ว่าคนเหล่านี้ ทำอะไรที่ไม่ดีไว้กับบ้านเมืองเราบ้าง แต่ตนพูดเฉพาะที่เห็นสมควรที่จะพูด  ตนไม่ห่วงเรื่องคดี เพราะตอนที่พูด พูดขณะที่ยังไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส. เลย

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะฟ้องด้วย โดยอ้างว่านายสุดเทพไปกล่าวหาว่าเป็นพวกนักฉกฉวยโอกาสทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น ใครจะไปอ้างอย่างไรก็ว่าไป ตนจะเอาเทปของสื่อมวลชนเป็นพยานหมด ตนเพียงบอกว่าคนพวกนี้เขาทำมาหากินอะไร แล้วเขาก็เป็นอย่างไร และตนยังไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส.ด้วย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. เป็นต้นไป ตนถึงต้องระมัดระวังมีลีลาการพูดจา