ข่าว

 ติงล้มเซาเทิร์นซีบอร์ดฉุดใต้เสียโอกาส

ติงล้มเซาเทิร์นซีบอร์ดฉุดใต้เสียโอกาส

23 พ.ค. 2554

ประธานสภาอุตสาหกรรมใต้ ห่วงรัฐไม่เดินหน้าโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ อ้อนพรรคใหญ่หันมาให้ความสนใจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตร แนะต้องพัฒนาอย่างเต็มระบบ และให้ความสำคัญกับภาคขนส่งเพื่อลดต้นทุนการผลิต

 นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือเซาเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ในรูปแบบที่ผสมผสานระหว่างอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบการขนส่งทางท่อ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการขนส่งทางทะเล ที่จะเชื่อมทะเล 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทยเข้าด้วยกัน ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาภาคใต้ แต่หากรัฐบาล หรือพรรคประชาธิปัตย์จะล้มเลิกโครงการดังกล่าว ก็จะทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วย

 ทั้งนี้ โครงการเซาเทิร์นซีบอร์ดผ่านรัฐบาลมาหลายสมัย แต่ยังไม่มีการเดินหน้า โดยอ้างถึงความห่วงใยในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น หากมีโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่

 ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทย สิ่งที่ภาคเอกชนอยากร้องขอก็คือ ขอให้คำนึงถึงการแข่งขัน โดยต้องมอง 2 ส่วน คือ 1.อุตสาหกรรมการเกษตรต้องประกอบไปด้วยต้นน้ำและปลายน้ำ ไม่ใช่ส่งเฉพาะต้นน้ำอย่างเดียว ต้องมีส่งเสริมด้านการผลิตและการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และระบบการขนส่ง รัฐบาลต้องมีความชัดเจน ต้องให้เกิดประโยชน์ต่อการแข่งขัน โดยเฉพาะระบบโลจิสติกส์ ว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนการใช้พลังงานถูกลง โดยในส่วนของภาคใต้เรื่องรถไฟรางคู่ยังมีความจำเป็นต่อการขนส่ง

 "กลไกปรับปรุงอุตสาหกรรมนั้น รัฐบาลต้องมองให้มีมูลค่าสูงขึ้น รวมทั้งระบบเทคโนโลยีการผลิตให้ต่อเนื่อง และต้องมีการพัฒนาอย่างอุตสาหกรรมยางจะต้องมีการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับประโยชน์ที่จะได้รับ โดยต้องพัฒนาอุตสาหกรรมยางให้มีมูลค่าที่สูง เพราะปัจจุบันมีอุตสาหกรรมจำนวนมากที่มียางเป็นองค์ประกอบหลัก ควรทำอย่างครบวงจรแทนที่จะส่งเฉพาะวัตถุดิบหรือทำเฉพาะต้นน้ำอย่างเดียว" นายธนารักษ์กล่าว