
ขอต้อนรับผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ
วิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติคนที่ 16 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 ได้แสดงวิสัยทัศน์ผ่านหน้าเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก"
ไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมา หลักใหญ่ใจความก็คือ วิฑูรย์ จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมรวมทั้งสนับสนุนวิสาหกิจสังคมชุมชนเน้นการผลิตสินค้าใช้เองในชุมชน ไม่ก่อมลพิษ เพื่อชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน...ฯลฯ
ผมดูจากพื้นฐานความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ตลอดจนประสบการณ์ที่ทำงานกับการเคหะแห่งชาติ ทั้งงานภาคสนามและบนเก้าอี้มานานถึง 34 ปี และความมุ่งมั่นที่แสดงออกแล้วค่อนข้างเชื่อมั่นว่า การเคหะแห่งชาติยุคใหม่น่าจะไปได้ดีนะครับ นานๆ จะเห็น “ลูกหม้อ” ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งก้าวขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุด ที่ผ่านมารัฐวิสาหกิจต่างๆ มักจะมี “คนนอก” เบียดแทรกเข้ามาเสมอๆ ในฐานะสื่อที่เคยวิจารณ์งานของการเคหะแห่งชาติมาเป็นระยะๆ ผมขอกล่าวคำต้อนรับท่านผู้ว่าคนใหม่ และขอให้กำลังใจในการทำงานครับ
เท่าที่ผมอ่านเจตนารมณ์และเป้าหมายในการทำงานที่วิฑูรย์แสดงเอาไว้ มีเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่าเข้าท่าและน่าสนับสนุนมากคือ “โครงการร่วมทุนกับเอกชน” แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาปลูกบ้านขายแข่งกับเขาจนเหลือบานเบอะ และกลายเป็นหนี้สินที่เหมือนดินพอกหางหมูอยู่ในขณะนี้ แต่ถ้าจะให้เยี่ยมวรยุทธ์กว่านั้น อย่าเพียงแต่ “ร่วมทุน” กับเอกชนเท่านั้นเลยครับ วิฑูรย์น่าจะมี “โครงการร่วมมือกับภาครัฐ” ควบคู่ไปด้วย นั่นคือการจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการของส่วนราชการต่างๆ ที่ได้งบประมาณมาจากรัฐบาลมากบ้างน้อยบ้างอยู่แล้ว
อย่างล่าสุด ข่าว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปนั่งรอพบ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อทวงถามโครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการตำรวจจำนวน 5,000 ห้อง ในเนื้อที่ 180 ไร่ มูลค่า 8,000 ล้านบาทนั่น วิฑูรย์ต้องรีบไปฉกมาเป็นประเดิมเลยนะครับ
แม้ว่า วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งการเคหะแห่งชาติขึ้นมาในระยะเริ่มแรก คือการจัดหาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยในราคาถูกก็จริงอยู่ แต่ทุกวันนี้คงต้องยอมรับนะครับว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ “กำไรงาม” ทำให้มีภาคเอกชนความสนใจเข้ามาลงทุนสร้างบ้านราคาต่างๆ ขายจนกลายเป็นคู่แข่งของการเคหะแห่งชาติมากขึ้น แม้วิฑูรย์จะบอกว่ามี “โครงการพิเศษ” คือสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูงอยู่ด้วย แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ การเคหะแห่งชาติเคยสร้างบ้านราคาสูงขายมาแล้ว แต่กว่าจะขายหมดก็เล่นเอาหืดขึ้นคอเหมือนกัน เพราะการเคหะแห่งชาติมีข้อจำกัดหลายอย่าง จะลดแลกแจกแถมอย่างเอกชนก็ลำบาก หันมาเล่นของตายคือ รับสร้างที่อยู่อาศัยให้ข้าราชการของส่วนราชการอย่างเป็นจริงเป็นจังดีกว่าครับ...
ที่ดินของราชพัสดุ หรือสำนักงานทรัพย์สินฯ ที่รอการพัฒนาอีกมากมาย จะต้องไปไล่ซื้อที่เอกชนในราคาแพงๆ มาปลูกบ้านขายแข่งกับเขาทำไม เมื่อได้ที่ดินมาแล้วก็เปิดเจรจากับหน่วยงานต่างๆ ที่ยังไม่มีสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยให้คนของเขา แบบนี้การเคหะแห่งชาติได้เงินสดๆ มาล้างหนี้แน่...
เวลาผมจะดูว่าใครเป็น “มืออาชีพ” หรือไม่ ผมไม่ดูจากแผนงานระยะสั้น ระยะยาว หรือรายรับ-รายจ่ายในงบดุลประจำปีอย่างเดียวนะครับ ผมดูที่แผนการ “ล้างหนี้” ให้องค์กรด้วยว่า เขาทำได้ดีแค่ไหน...หากทำสำเร็จอนาคตของ วิฑูรย์ เจียสกุล คงไม่อยู่แค่การเคหะแห่งชาติเท่านั้นนะครับ...ยังไปได้อีกไกลทีเดียว
ภาณุมาศ ทักษณา