"อภิชาติ"ติวเข้มกกต.จังหวัดย้ำวางตัวเป็นกลาง | คมชัดลึก

(20พ.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมกกต.ได้มีมติเห็นชอบเรื่องการกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ปี 2554 ในวงเงิน 1.5 ล้านบาทต่อคน ซึ่งตนจะลงนามให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
 นายอภิชาตกล่าวต่อว่า คาดว่า จะสามารถจัดส่งงบประมานการเลือกตั้งไปถึงแต่ละจังหวัดได้ภายในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ทั้งนี้กกต.กลางขอให้กกต.จว.ศึกษาขั้นตอนและจัดสรรการใช้ให้เพียงพอต่อการเลือกตั้งหรือควรสำรองงบประมาณไว้ หากต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย  
 ผุ้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดการประชุมชี้แจงการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งส.ส.ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด (กกต.จว.)และผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด กว่า 400 คน เพื่อรับทราบนโยบายของ กกต. พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ใช้ในการอำนวยการเลือกตั้งหรือดำเนินการเลือกตั้ง ส.ส. โดยในการประชุมครั้งนี้ทางกกต.ได้มีการแจกเอกสารให้กับ ผอ.กกต.จว.เพื่อให้รับทราบถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดหาสถานที่ปิดป้ายประกาศหาเสียงของผู้สมัคร เพื่อให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด ตามประกาศของ กกต. เรื่องหลักเกณฑ์การดำเนินการของรัฐ ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส.

 โดยขนาดของป้ายหาเสียงมี 2 แบบ คือ ขนาดโปสเตอร์ มีขนาดไม่เกิน 30 เซนติเมตร ยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร (ประมาณ A 3 ) ผลิตได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ขณะที่ป้ายคัตเอ้าต์หรือบิลบอร์ด มีขนาดกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร ยาวไม่เกิน 245 เซนติมตร หรือประมาณแผ่นไม้อัดทั่วไป ผลิตได้ไม่เกิน 5 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง ส่วนป้ายประกาศขนาดใหญ่ห้ามไม่ให้ใช้ สำหรับสถานที่ติดป้ายหาเสียง ห้ามปิดในสถานที่ของเอกชน ให้ปิดได้ในสาธารณสถานของรัฐเฉพาะแห่ง ตามที่หัวหน้าหน่วยของรัฐได้ประกาศกำหนดอนุญาตไว้เท่านั้น โดยแผ่นประกาศ (โปสเตอร์) สามารถปิดได้เพียงสถานที่ละ 1 แผ่น ส่วนแผ่นป้ายจะติดได้จำนวนเท่าใด ณ สถานที่ใดให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานนั้น

 นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เปิดประชุมชี้แจงพร้อมมอบนโยบาย ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์โดยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและองค์กรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่างประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรปหรือก็ได้ขอมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย จึงขอให้ทุกคนยึดกติกา กฎหมาย จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและให้ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งการรับสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนี้ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของกกต.จว.และผอ.กกต.จว.ดำเนินการรับสมัคร ส.ส.เขตและจัดการเลือกตั้ง และทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในเขต คือ 12-16 มิ.ย.นอกจากนี้ขอให้ศึกษากฎหมาย กติกา ติดตามการปฏิบัติงาน ไม่ให้มีข้อผิดพลาดหรือมีข้อบกพร่องเพราะจากจะมีการร้องคัดค้านภายหลังได้

 นายอภิชาต กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่ารุนแรง จึงขอให้ทุกคนวางตัวเป็นกลางทางการเมือง เพราะกกต.จว.และผอ.กกต.จว.ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ อยู่ในตำแหน่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง และบางคนก็มีความใกล้ชิดกับผู้สมัคร ส.ส.หรือพรรคการเมือง ขณะนี้ก็มีเรื่องร้องเรียนในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.จว.  ซึ่งกกต.กลางเอง ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยจะเข้าไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม  ขอให้กกต.จว.ยึดหลักทำงานตามกฏหมาย และอย่าใช้อำนาจเกินไป เพราะอาจเกิดความบาดหมางขึ้นได้ ควรทำในลักษณะการขอความร่วมมือ นอกจากนี้ในกรณีที่มีคำสั่งให้ปฏิบัติตามแต่กลับไม่ทำหน้าที่ ถือว่าเป็นความผิดทางวินัย กกต.สามารถส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจสั่งสอบสวนและลงโทษได้ แต่หากไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ขอให้บอกเหตุผลโดยทำเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งมา

 “หลายคนบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกอนาคตของประเทศ ซึ่งผมก็เห็นว่า จริง ซึ่ง 3 ก.ค.นี้ขอให้ทุกฝ่ายจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม และตั้งเป้าให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า 70 % และขอให้มีบัตรเสียน้อยที่สุด” ประธาน กกต.กล่าว