
อวสานบิน ลาเดน ?
หากจัดลำดับอาชญากรหมายเลข 1 ในสายตาของสหรัฐแล้ว โอซามา บิน ลาเดน จะอยู่ในอันดับที่ 1 รองลงไปก็เป็น พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ต่อด้วยประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ และผู้นำของอิหร่าน ซึ่งอาชญากรรมที่บุคคลเหล่านั้นถูกกล่าวหาก็คือ การตั้งตัวเป็นศัตรูกับสหรัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย อันเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหรัฐ และพันธมิตร และวิธีการกำจัดอาชญากรดังกล่าวของสหรัฐ ก็คือ การใช้กำลังเข้าจัดการ ไม่ว่าจะด้วยการยกทัพไปโจมตีและจับตัวผู้ถูกกล่าวหามาแขวนคอ เช่น ที่ทำกับอิรักและประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน การฉวยโอกาสโจมตีทางอากาศ เช่นที่ทำกับ พ.อ.กัดดาฟี ในลิเบีย รวมถึงการยิงถล่มสังหาร ดังเช่นกรณีของบิน ลาเดน
จริงอยู่ว่าสหรัฐมีสิทธิในการป้องกันตนเองและตอบโต้หากถูกโจมตี แต่การใช้สิทธิดังกล่าวน่าจะต้องมีขอบเขตและคำนึงถึงต้นสายปลายเหตุเป็นเครื่องประกอบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ชาติหนึ่งชาติใดสามารถอ้างสิทธิดังกล่าวในการละเมิดอธิปไตยชาติอื่น เพราะมิเช่นนั้นประเทศเล็กๆ ก็จะหาความปลอดภัยลำบาก หากมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับประเทศที่ใหญ่กว่า ขณะเดียวกันก็เป็นการบีบบังคับทางอ้อมให้ประเทศต่างๆ ยอมรับการใช้อำนาจของสหรัฐว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปโดยปริยาย
เมื่อย้อนดูประวัติของบิน ลาเดน เหยื่อสังหารรายล่าสุดของสหรัฐ จะพบว่า เขาเองเคยเป็นคนที่นิยมสหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ในการต่อต้านโซเวียตซึ่งรุกรานอัฟกานิสถาน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เมื่อสหรัฐใช้พื้นที่ของซาอุดีอาระเบียในการทำสงครามอ่าวเพื่อขับไล่กองทัพอิรักออกจากคูเวต และปราบปรามกองกำลังตาลีบันในอัฟกานิสถาน
ซึ่งบิน ลาเดน เห็นว่าสหรัฐล่วงละเมิดดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามและเข่นฆ่าชาวมุสลิม จึงลงมือตอบโต้ด้วยการก่อการร้ายต่อสถานเอกอัครราชทูต และเรือรบของสหรัฐ รวมทั้งทหารอเมริกันที่ประจำการในประเทศต่างๆ แต่ที่รุนแรงที่สุดคือเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ นครนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ.2001 ซึ่งเป็นเหตุให้พลเรือนสหรัฐ และชาติอื่นๆ เสียชีวิตถึง 3,000 คน สหรัฐเชื่อว่า บิน ลาเดน อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจครั้งนี้ และลงมือไล่ล่าอาชญากรหมายเลข 1 ผู้นี้ อย่างเอาเป็นเอาตาย ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา
หากถือว่าการเสียชีวิตของบิน ลาเดน และบุตรชายของ พ.อ.กัดดาฟี เป็นชัยชนะของสหรัฐ ก็คงมีคำถามตามมาว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับบุคคลที่สหรัฐหมายหัวว่าเป็นอาชญากรคนสำคัญรายอื่นๆ สำหรับ ประธานาธิบดีคิม อิล ซุง แห่งเกาหลีเหนือ คงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกับจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเกาหลีเหนือ
รวมทั้งจะกระทบกระเทือนถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่นโดยตรง แต่กับอิหร่านนั้น มีโอกาสจะเป็นเป้าหมายของสหรัฐได้มากกว่า ทั้งจากความแค้นฝังใจจากสมัยการปฏิวัติอิสลามของโคไมนี่ การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นอันตรายต่อสหรัฐ และอิสราเอล การให้ความสนับสนุนการก่อการร้ายและขบวนการปฏิวัติในหลายๆ ประเทศ
และที่สำคัญคือ การเป็นหัวโจกในการใช้น้ำมันเป็นปัจจัยในการทำสงครามเศรษฐกิจกับสหรัฐ และโลกตะวันตก ซึ่งหากสหรัฐสามารถโค่นล้มการปกครองที่มีศาสนาเป็นศูนย์รวมลงได้เมื่อไหร่ สหรัฐก็จะมีบทบาทอย่างสูงในการกุมแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกเหนือจากที่มีแหล่งน้ำมันในอิรักอยู่ในมือแล้ว ซึ่งนั่นเท่ากับสหรัฐจะเป็นผู้กุมชะตากรรมของโลกไว้ในมือทั้งสองข้างเลยทีเดียว
คำถามข้างต้น คุณผู้อ่านเก็บไปคิดเป็นการบ้าน และยังไม่ต้องรีบตอบก็ได้ครับ