สืบจาก"ไอแพด"ล่าฆาตกร"รักร่วมเพศ"ปมฆ่าเอ็นจีโอ | คมชัดลึก

 อีก 5 นาทีจะถึงเวลา 6 โมงเย็นของวันที่ 28 เมษายน 2554 พนักงานโรงแรมรอยัล เบญจา ซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พบ “เจมส์ ชีค ชอว์" หนุ่มอินเดียวัย 45 ปี ถูกฆาตกรรมภายในห้องพักชั้น 31

 หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5, พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พร้อมชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

 ภายในห้องเลขที่ 3112 เป็นห้องสูทขนาดใหญ่ มี 2 ห้องนอน มีห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง พบร่องรอยการต่อสู้ "เจมส์ ชีค ชอว์" สวมกางเกงในตัวเดียว นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิต  ตามร่างกายถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณลำคอด้านข้างและกลางหลังรวม 5 แผล และยังพบร่องรอยการล้างคราบเลือดที่อ่างล้างมือ

 จากการสอบสวนพยานชาวต่างชาติที่พักอยู่ห้องใกล้กัน ทราบว่า นายเจมส์ ชีค ชอว์ เป็นวิทยากรทำหน้าที่บรรยายตามสถานที่ต่างๆ และทำงานอยู่ในองค์กรสิทธิมนุษยชน หรือ "เอ็นจีโอ" เกี่ยวกับสหภาพคุ้มครองโรคปอด เดินทางมาประชุมที่ประเทศไทยเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจนำเข้าส่งออกอาหารเสริมประเภทสมุนไพรเพื่อสุขภาพในประเทศอินเดีย

 "นายเจมส์ ชีค ชอว์ เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ก่อนเกิดเหตุนายเจมส์บอกว่าต้องการพักผ่อนอยู่ภายในห้อง ซึ่งนายเจมส์มีการติดต่อคู่นอนผ่านไอแพค รุ่น 3G เพื่อเข้าไปพูดคุยในเว็บไซต์หาคู่นอน ซึ่งพฤติการณ์ของนายเจมส์ มีรสนิยมรักร่วมเพศ“ พยานชาวต่างชาติ ระบุ

 จากการสอบปากคำเพื่อนชาวต่างชาติ ทำให้ทราบว่า โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี่ของนายเจมส์ได้หายไป ส่วนโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง สร้อยคอ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังอยู่ครบ ขณะที่กระเป๋าสตางค์และเงินสดยังอยู่ภายในกล่องเซฟที่ติดตั้งอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าในห้องพัก

 ข้อมูลการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดถูกนำมาประมวลและจำลองเหตุการณ์จนกระทั่งชุดสืบสวนขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในโรงแรม และภายในลิฟต์โดยสาร และได้พบภาพผู้ต้องสงสัย น่าจะเป็นชาวต่างชาติ อายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างผอมสูงประมาณ 180 เซนติเมตร ผิวขาว ตัดผมสั้น สวมหมวกแก๊ปปกปิดใบหน้า ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีครีม สวมรองเท้าแตะแบบคีบ เข้ามาในลิฟต์โดยสาร และเข้าไปในห้องของนายเจมส์ แล้วออกมาจากห้องด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

 ชุดสืบสวนคาดว่าคนร้ายใช้เวลาในการลงมือสังหารนายเจมส์ประมาณ 27-28 นาที โดยไม่ได้มีการร่วมเพศ เมื่อชุดสืบสวนสอบสวนนำไอแพด ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมาตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้าที่นายเจมส์ถูกฆาตกรรม นายเจมส์เปิดโปรแกรม SAFARI เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต และเข้าไปดูเว็บไซต์ต่างๆ หลายเว็บไซต์ 

 "แต่มีอยู่เว็บไซต์หนึ่ง เกี่ยวกับการหาคู่นอนสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวผู้ที่เป็นสมาชิก ต้องมีรหัสผ่านจึงสามารถเข้าไปดูเนื้อหาภายในเว็บไซต์นั้นได้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในการติดตามคนร้าย“ แหล่งข่าวในชุดสืบสวนระบุ

 ชุดสืบสวนสอบสวนยังเปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมซึ่งเป็นชาวต่างชาติซึ่งอยู่ภายในลิฟต์โดยสาร ขณะผู้ต้องสงสัยกำลังใช้ลิฟต์โดยสารขึ้นไปยังชั้น 31 และลงมาจากชั้น 31 นั้น หลายปากให้การตรงกันว่า เห็นรอยคราบเลือดติดอยู่บนเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัยขณะที่ลงจากลิฟต์โดยสาร ซึ่งจากการสังเกตด้วยสายตา และฟังบทสนทนาซึ่งผู้ต้องสงสัยพูดคุยโทรศัพท์ คาดว่าน่าจะเป็นชาวเอเชีย

 อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนสันนิษฐานว่า คนร้ายนำโทรศัพท์มือถือของนายเจมส์ไปเพียงอย่างเดียวนั้น เพราะอาจเข้าใจว่าตำรวจไม่สามารถติดตามหรือแกะรอยได้ หรืออาจเข้าใจว่าการติดต่อของนายเจมส์กับคนร้ายน่าจะมีการสนทนาผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี่ จึงต้องการทำลายหลักฐานเพียงเท่านั้น สำหรับคดีนี้ชุดสืบสวนมั่นใจว่าหากหลักฐานการสืบสวนสอบสวนครบถ้วน เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และจะทำสำนวนขออำนาจศาลออกหมายจับ เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งหลังได้ตัวคนร้ายแล้ว ก็จะทำให้ทราบมูลเหตุจูงใจในการฆาตกรรมโหด