
ลอบสังหารเป็นวิถีของคนขลาด
วัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงที่ปรากฏในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การประท้วงที่มีการเผารถ เผาบ้าน เผาเมือง จนกระทั่งเช้าวันนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนสำคัญของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกลอบสังหาร มือปืนกระหน่ำยิงกว่า 100 นัด
คุณหมอจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ผ่าตัดเพื่อจะเอาเศษเหล็กซึ่งอาจจะเป็นกระสุน หรือว่าเศษกระสุนออกจากสมองข้างขวาของคุณสนธิ
ถึงแม้ว่า หมอจะบอกว่าน่าจะปลอดภัย ก็แปลว่า คุณสนธิได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้ข่าวคราวที่ตำรวจสอบสวน ที่มีการกล่าวหาว่ามีความพยายามจะลอบสังหารองคมนตรี และอดีตประธานศาลฎีกา คุณชาญชัย ลิขิตจิตถะ ก็เป็นข่าวคราวในแนวทางเดียวกัน
ซึ่งแปลว่าวัฒนธรรมการเมืองของไทยบัดนี้ ก้าวเข้าสู่การใช้วิธีความรุนแรงทุกรูปแบบเพียงเพื่อจะเอาชนะเท่านั้น
คุณทักษิณ ชินวัตร เองก็เคยกล่าวหาว่ามีคนพยายามจะปองร้ายต้องการจะสังหารเขาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าผู้คิดผู้กระทำจะลอบสังหารศัตรูทางการเมืองจะเป็นใครฝ่ายไหนก็ตาม นี่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการเมืองที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
ที่ทำให้การแข่งขันต่อสู้ที่อ้างว่าเพื่อผลประโยชน์ประชาชนนั้น กลับกลายเป็นเรื่องของการเข่นฆ่า บ้านเมืองไร้ขื่อ ไร้แป ศีลธรรม จรรยา หายไปสิ้น เพียงเพราะว่าการเมืองและผลประโยชน์ทางการเมืองมีส่วนทำให้บดบังเหตุผลและความชอบธรรมของคนที่เกี่ยวข้องในแวดวงการเมือง
จำเป็นที่เราจะต้องหยุดตั้งสมาธิ ตั้งสติ ประเมินพิจารณาถึงวัฒนธรรมการเมืองของไทย ที่ยิ่งนับวัน ยิ่งจะเสื่อมทรามลง เพราะว่าการใช้ความรุนแรง การเอาชนะคะคานกันด้วยอาวุธไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตยแน่นอน
วิถีทางประชาธิปไตยที่ถูกต้องนั้นหมายถึงการเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน มีความเห็นแตกต่างเป็นเรื่องปกติ และจะไม่เข่นฆ่ากันด้วยอาวุธ เพราะนั่นคือการแก่งแย่งเพื่ออำนาจมิใช่เพื่อประชาธิปไตย
คนไทยทั้งประเทศจะไม่ยอมให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมของความรุนแรงที่ใช้อาวุธประหัตประหาร เพียงเพราะว่าต้องการเอาชนะทางการเมืองอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ถึงเวลายุติความรุนแรง ถึงเวลาที่จะยุติความบ้าคลั่งนี้ได้แล้ว
สุทธิชัย หยุ่น