
กลางดึกไทย-กัมพูชายิงกันประปราย
สถานการณ์ไทยกัมพูชาคืนที่ผ่านมามียิงกันประปรายจากหน่วยสอดแนมกัมพูชา โฆษกทัพภาค 2 แจง "มนุษย์ลิงลม" แค่ทหารตัวเล็ก หลบสายตาเร็ว ไม่มีไสยศาสตร์ โวยคนปล่อยข่าวขาดแคลนเสบียงหวังดิสเครดิต ส่งผลทหารอาจหมดกำลังใจ กต.ชี้กัมพูชาหวังสร้างบรรยากาศส่งศาลโลกตีความ นาย
(2พ.ค.) พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่สองได้ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถึงสถานการณ์ไทย - กัมพูชา ในคืนที่ผ่านมาว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ใช่การปะทะกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเนื่องจากมีหน่วยสอดแนมกัมพูชาเข้ามาเมื่อเวลาประมาณ 22.00-23.00 น.ของวันที่ 1 พ.ค. และ 03.00-.4.00น.ของวันที่ 2 พ.ค. ทำให้มีการใช้ปืนเล็กยิงกันประประปราย แต่โดยรวมสถานการณ์ถือว่าเบาบางลงมากเป็นที่น่าพอใจ
พ.อ.ประวิทย์กล่าวว่าวานนี้มีการเจรจาหารือในระดับพื้นที่โดยฝั่งไทยมีเสนาธิการของกองกำลังสุรนารี ได้นำ ผบ.กองพัน ผู้บ.กองร้อย ไปพบปะกับทหารกัมพูชาในระดับพื้นที่ เพื่อทำให้การเจรจาของผู้บังคับบัญชาทั้งสองประกาศอเป็นจริงร้อยเปอร์เซนต์ และเมื่อดูท่าทีแล้วทุกหน่วยของกัมพูชาก็มีแนวโน้มว่าต้องการที่จะยุติปัญหา โดยมีข้อตกลงว่าจะจัดชุดประสานงานว่าหากเกิดเหตุอะไรจุดใดก็จะพากันไปดูว่าไม่มีการวางกำลังในพื้นที่ที่ตกลง
พ.อ.ประวิทย์กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ระบุว่าทางกัมพูชาขอเข้ามาเก็บศพเนื่องจากมีทหารเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้กระทบต่อขวัยกำลังใจว่า ยอมรับว่าจากการข่าวพบว่าการปะทะตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นนต้นมาทางโน้นก็สูญเสียเยอะ แต่การหารือระดับพื้นที่วานนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องทางกัมพูชาขอนำศพออกไป เราพูดแค่ว่าทำอย่างไรให้การเลิกปะทะสัมฤทธิ์ผล 100%
ต่อข่าวลือเรื่องกัมพูชาใช้ไสยศาสตร์ มนุษย์ลิง ที่มีความรวดเร็วฆ่าไม่ตาย ลมมารบนั้น พ.อ.ประวิทย์กล่าวว่า ตนก็ได้ข่าวเช่นกัน แต่ตามที่มีประสบการณ์พบว่าทหารกัมพูชามีร่่างกายเล็กกว่าคนไทย อาจจะคล่องแคล่ว พอเจอหลบได้เร็วก็มี ตนเคยออกยุทธการช่องบกก็เคยพบ เขาตัวเล็กหลบสายตาพวกเราได้อย่างรวดเร็ว จึงเปรียบเทียบเหมือนลิงลม
"ยืนยันว่าเราไม่ได้ขาดแคลนเสบียง เรามีอาหารสำรอง 5-10 วัน และยังแจกาหารที่สามารถทานได้โดยไม่ต้องประกอบ ส่วน คนที่มาปล่อยชข่าวนั้นอาจจะประสงค์ดี หรืออาจจะต้องการดิสเครดิตผู้บังคับบัญชา แต่หากเป็นอย่างนี้ทหารก็อาจจะหมดกำลังใจ"พ.อ.ประวิทย์กล่าว
กต.ชี้กัมพูชาหวังสร้างบรรยากาศส่งศาลโลกตีความ
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชายื่นต่อศาลโลกให้ตีความเรื่องปราสาทพระวิหารใหม่ว่าไทยไม่ได้รับคำฟ้องร้องจากศาลโลกโดยอัตโนมัติ ซึ่งกรณีต่อเนื่องจากกรณีเดิมที่ศาลโลกมีคำตัดสินยกตัวปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชา เมื่อปี 2505 แต่ไม่ได้ตัดสินถึงพื้นที่เส้นเขตแดน ทำให้ทั้งไทยกับกัมพูชามีความเห็นในเรื่องดินแดนบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหารที่ต่างกัน นำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหาร ดังนั้นกัมพูชาจึงได้ยื่นให้ศาลโลกตีความอีกครั้ง ในเรื่องอาณาบริเวณปราสาทพระวิหารที่เป็นของกัมพูชาว่ามีขนาดเท่าไร โดยที่ศาลโลกจะพิจารณาคดีภายในอาณัติเดิม และศาลโลกจะเปิดโอกาสให้คู่กรณีทั้งทางฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ยื่นเอกสารอธิบายในประเด็นต่างๆ ในส่วนของตน โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ค้นคว้าศึกษาข้อกฎหมาย และเอกสารหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อใช้นำมาต่อสู้คดี โดยในเรื่องนี้ เป็นเรื่องการรักษาผลประโยชน์ในอธิปไตยของประเทศ หากปล่อยให้กัมพูชาให้ข้อมูลกับศาลโลกอยู่ฝ่ายเดียวอาจะทำให้ไทยเสียเปรียบ
นายธานี กล่าวว่า ส่วนระยะวลาในการพิจารณาคดีของศาลโลกนั้น ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณารับคำฟ้องประมาณ 3 สัปดาห์ ขณะที่ใช้เวลาตีความประมาณ 9 เดือน จนถึง 1 ปี โดยเชื่อว่า กัมพูชาได้ยื่นต่อศาลโลกพิจารณาออกการคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉินด้วย ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวในระหว่างที่ศาลโลกยังไม่มีการตีความเส้นเขตแดน อีกด้วย
“ในขณะนี้ ประชาคมโลกได้เห็นแล้วว่า กัมพูชากำลังทำอะไรอยู่ ตั้งแต่มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร การยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารต่อคณะกรรมการมรดกโลก และทางกัมพูชาต้องการให้ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิถุนายนนี้ ดังจะเห็นว่า เหตุการณ์การปะทะที่เกิดขึ้นตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เพื่อสร้างบรรยากาศให้สุกงอม และนำเรื่องนี้ยื่นต่อศาลโลก” นายธานีกล่าว
ตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายผรั่งเศส-แคนาดา -ออสซี่ สู้คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (1 พ.ค.) ภายหลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นภารกิจจากลานคนเมือง ก็ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือกับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อมานายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงว่านายกรัฐมนตรี และ นายกษิต ได้หารือถึงกรณีกัมพูชายื่นศาลโลกตีความคำพิพากษาปราสาทพระวิหาร ปี 2505 โดย นายกรัฐมนตรีรับทราบกระบวนการต่าง ๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการ โดยขอให้ทำอย่างรอบคอบ พร้อมดูรายละเอียดในข้อกฎหมายเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 พ.ค. นี้ กระทรวงฯ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อเป็นคณะทำงานด้านกฎหมายกรณีปราสาทพระวิหาร จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเป็นทนายชาวฝรั่งเศส แคนาดา และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามทั้ง 3 คน เดิมเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่กระทรวงการต่างประเทศได้ว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาของกระทรวงมาแล้วก่อนหน้านี้
นายกฯสั่งกต.ชงตั้งกก.สู้คดีเขาพระวิหารในศาลโลกเข้าครม.อังคารนี้
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผย "สำนักข่าวเนชั่น" ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. ที่ระบุว่าในวันอังคารที่ 3 พ.ค. จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำภารกิจต่อสู้คดีที่กัมพูชายื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (ไอซีเจ)ให้ตีความคำพิพากษาคดีเขาพระวิหารที่เคยถูกตัดสินมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2505 ว่า คณะกรรมการหรือคณะทำงานดังนั้นกล่าวนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ค.2554 ซึ่งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เข้าหารือกับนายกฯที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลนาน 40 นาที แล้วนายกษิตจะนำบัญชาของนายกฯไปการตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานไปหารือเป็นการภายในของกระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องของการกำหนดตัวโครงสร้างของคณะกรรมการ ขอบเขตภารกิจ อำนาจหน้าที่ กรอบเวลาและงบประมาณเพื่อเสนอให้ครม.พิจารณา
“เบื้องต้นจะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายด้านทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่ยังไม่ทราบจำนวน อาทิ นักกฎหมาย นักวิชาการ และที่จะมาร่วมกันทำงานในด้านกฎหมาย ด้านงานวิชาการและด้านเทคนิคต่างๆ เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้คณะฯดังกล่าวจะมีความชัดเจนในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 2 พ.ค. ซึ่งคณะกรรมการหรือคณะทำงานชุดนี้อาจจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อทำงานปลีกย่อยให้ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งระยะเวลาในการทำงานต้องมีความต่อเนื่องต้องลากยาวเป็นปีไปจนถึงรัฐบาลนี้"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากคณะกรรมการต้อสู้คดีที่ศาลโลกแล้ว ยังจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ทำหน้าประชุมคณะกรรมการมรดกดลกในเดือนพ.ค.นี้อีกชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดที่รับผิดโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายสุวิทย์จะเสนอชื่อคณะทำงานเข้ามาเช่นเดียวกัน