
เอกซเรย์...ขุมกำลัง"กองทัพเขมร"
ปัญหาการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นล่าสุด บริเวณชายแดนด้าน จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ยุติลงง่ายๆ เมื่อการเจรจาดูท่าจะล้มเหลว...เพราะเป้าหมายการสู้รบครั้งนี้ "กัมพูชา" มีเจตนาแฝงเร้นต้องการยกระดับการสู้รบไปสู่เวทีระดับโลก
หากเมื่อลองเปิด "คลังแสง" เช็กอาวุธยุทโธปกรณ์กันแล้ว กองทัพกัมพูชายังมีแสนยานุภาพน้อยกว่ากองทัพไทยหลายขุม...แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงของไทย ยืนยันว่า อาวุธของกัมพูชามีจำนวนน้อย และประสิทธิภาพไม่รุนแรง เมื่อเปรียบเทียบกับอาวุธของทหารไทย ทั้งนี้ เขี้ยวเล็บหลักๆ ประจำกายของทหารกัมพูชา จะเป็นพวกปืนเล็กยาวและอาวุธเบาประเภทอาร์พีจี ทั้งนี้เนื่องจากอาวุธเบาประเภทนี้เหมาะกับการใช้ในภูมิประเภทแบบกัมพูชาที่เป็นพื้นที่ป่า
ด้าน "ขุมกำลังทหาร" ของเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่าทัพของกัมพูชานั้น "กองทัพบก" กัมพูชาจะมีบทบาทสำคัญที่สุด จะประกอบด้วย กรมทหารราบ 9 กรม กองพันยานเกราะ 3 กองพัน กรมทหารช่าง 4 กรม และ กองพลน้อยต่อต้านการก่อการร้าย 3 กองพล รวมกำลังทหาร 1.24 แสนนาย ใช้งบประมาณกลาโหม 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ส่วน "อาวุธ-ยุทโธปกรณ์" ของกองทัพกัมพูชาส่วนใหญ่ เดิมจะเป็นอาวุธจากค่ายสังคมนิยมเดิมอย่างรัสเซียและจีน ที่ใช้ในยุคสงครามเย็น และสงครามกลางเมือง ปัจจุบันก็มีอาวุธใหม่ๆ หลายรายการที่ได้รับความช่วยเหลือมาจากจีน สหหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ทั้งนี้ อาวุธหลักของกองทัพบกกัมพูชาประกอบไปด้วยรถถังประมาณ 400 คัน ได้แก่ "รถถังหลัก T-55" จากรัสเซียประมาณ 100 คัน "รถถังหลัก Type-59" จากจีนประมาณ 200 คัน "รถถังเบา PT-76" จากรัสเซีย "รถถังเบา Type-62/63" จากจีน และ "รถถังเบา AMX-13" จากฝรั่งเศสประมาณ 50 คัน
และรถเกราะเกือบ 300 คัน ได้แก่ "รถเกราะ รถรบทหารราบ BMP-1" จากรัสเซีย 10 คัน "รถเกราะสายพาน M 113A1/A3" จากสหรัฐ 20 คัน "รถเกราะล้อยาง BTR-60" จากรัสเซีย 120 คัน "รถเกราะล้อยาง BTR-152" จากรัสเซีย 100 คัน และ "รถเกราะล้อยาง OT-64" จากโปแลนด์ 26 คัน
สำหรับ "อาวุธ" ที่น่าสะพรึงกลัว มีศักยภาพทำลายล้างสูง สามารถสร้างความเสียหายให้ฝ่ายตรงข้ามคงเป็น "ปืนใหญ่" จาก กองทัพบกกัมพูชา มีปืนใหญ่ที่ประจำการอยู่หลายรายการ ได้แก่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. แบบ M 101 ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. แบบ M 114 จากสหรัฐ หรือปืนใหญ่สนามขนาด 130 มม. แบบ M 1954 และปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 152 มม. แบบ M 1955
ด้าน กองทัพเรือกัมพูชา จะมีกองเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (Green Navy) เป็นเรือตรวจการณ์ลำน้ำชั้น Kaoh 2 ลำ และเรือเร็วโจมตี (ปืน) อีก 2 ลำ และในปี 2548 รัฐบาลจีนได้บริจาคเรือตรวจการณ์ขนาด 46 เมตร 4 ลำ เรือตรวจการณ์ขนาด 20 เมตร 3 ลำ และเรือลำเลียงสัมภาระอีก 1 ลำให้กองทัพเรือกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล และลาดตระเวนปราบโจรสลัด
ส่วน กองทัพอากาศกัมพูชา มีฐานบินอยู่สองฐานคือ ฐานทัพอากาศพระตะบองและฐานทัพอากาศพนมเปญ แต่มีเครื่องบินประจำการที่ฐานทัพอากาศพนมเปญเพียงที่เดียว โดยมีเครื่องบินขับไล่ MiG-21 Bis และ MiG-21UM จากรัสเซียอย่างละ 1 ลำ ปัจจุบันบินไม่ได้ เครื่องบินขับไล่ฝึก L-39C จากสาธารณรัฐเช็ก 6 ลำ เครื่องบินลำเลียง Y-12 จากจีน 2 ลำ เครื่องบินลำเลียง An-24RV จากรัสเซีย 2 ลำ เครื่องบินลำเลียงเบา BN-2A Islander จากอังกฤษ 2 ลำ เครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ Falcon 20E จากฝรั่งเศส 1 ลำ เฮลิคอปเตอร์ AS350 Ecureuil 2 ลำ เฮลิคอปเตอร์ SA365 Dauphin 1 ลำ เฮลิคอปเตอร์ Mi-8/Mi-17 อีก 6 ลำ เฮลิคอปเตอร์ Mi-26 รวม 2 ลำ
แม้จะดูเหมือนว่ากองทัพกัมพูชามีอาวุธ-ยุทโธปกรณ์มือสองที่ได้รับมรดกมาจากประเทศมหาสงครามเสียส่วนใหญ่ แต่เมื่อปลายปี 2553 กองพลน้อยที่ 70 กัมพูชา สวนสนาม มีโชว์อาวุธใหม่ๆ ณ ชานกรุงพนมเปญ อาทิ "Type 59" และ "T-54/55" ที่พัฒนามาจาก USSR ซึ่งเป็นรถถังของรัสเซีย จึงคาดว่ากองทัพบกกัมพูชา มี Type 59 และ T-54/55 มากกว่า 350 คัน นอกจากนี้กัมพูชายังพัฒนา BM 21 เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ขนาด 122 มม. ติดตั้งบนรถบรรทุก Ural-375D รวมทุกขนาด ทั้ง BM-13, BM-14, Type 63 ซึ่งกองทัพกัมพูชาน่าจะมีในครอบครองกว่า 2 หมื่นลูก และล่าสุดได้นำ FN-6 หรือ FeiNu-6 ขีปนาวุธนำวิถี พื้นสู่อากาศ 80 มม. จากจีนติดตั้งแท่นคู่บนรถจี๊ปเล็ก เคลื่อนที่เร็วเอาไว้ยิงเครื่องบินไอพ่นและอากาศยานทุกลำที่ล่วงละเมิดน่านฟ้าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนครั้งล่าสุดนี้ กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธหนักเพียง BM 21, RPG ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. นอกจากนั้นจะใช้เป็นปืนประจำตัวและระเบิดขว้างเพียงเท่านั้น โดยแหล่งข่าวด้านความมั่นคง ประเมินถึงขุมกำลังของกองทัพกัมพูชาขณะนี้ ยังไม่สามารถทัดเทียมกับกองทัพไทย แต่กองทัพกัมพูชาเลือกใช้วิธีการสู้รบแบบก่อกวนยั่วยุให้กองทัพไทย ใช้อาวุธหนัก เพื่อต้องการดึงสถานการณ์ให้บานปลายไปสู่การเจรจาบนเวทีโลกนั่นเอง!!