
สาวพริตตี้แมวหายหลงกล"รปภ."ลวงข่มขืน
นับเป็นภัยใกล้ตัวหญิงสาวที่พักอาศัยอยู่ตามลำพังต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะแม้แต่คนที่มีอาชีพดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีท่าทีที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้ความช่วยเหลือได้ แต่กลับกลายเป็นบุคคลอันตรายก่อเหตุใกล้ตัวเรามากที่สุด
เมื่อเร็วๆ นี้ ร.ต.ต.ณัฐพงษ์ ตันศิริวิวัฒนกุล พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ฝ้าย อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และมีอาชีพเสริมเป็นพริตตี้ตามงานอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งได้เช่าคอนโดห้องพักอาศัยอยู่ที่ข้างศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี
ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ถูก นายประทีป ฉงสกุล อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่เช่าห้องพักภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังคอนโดที่เธอพักอาศัยอยู่ ใช้อาวุธมีดจี้บังคับไปข่มขืนในห้องพักจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยเหตุเกิดในช่วงเย็น หลังจากที่ น.ส.ฝ้าย ผู้เสียหาย ได้ออกตามหาแมวตัวโปรดที่เลี้ยงไว้ได้หายไป จนมาถึงห้องเช่าด้านหลังในหมู่บ้านจัดสรรที่เกิดเหตุ
"เหยื่อ" ได้ไปพบกับนายประทีป ที่เปิดประตูห้องออกมา จึงเล่าเรื่องแมวที่หายไปให้ฟัง นายประทีปแสดงท่าทีมีน้ำใจ รับอาสาที่จะช่วยตามหาแมวให้ จนกระทั่งนายประทีปสบจังหวะฉวยโอกาสใช้มีดปอกผลไม้ปลายแหลมออกมาจี้บังคับให้ น.ส.ฝ้ายเข้าไปในห้องเช่าดังกล่าว จากนั้นจึงบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออก ก่อนที่จะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากที่นายประทีปได้โทรศัพท์เข้าไปหา น.ส.ฝ้ายอีกครั้ง เพื่อขอร่วมหลับนอนอีก
ทำให้ น.ส.ฝ้ายตัดสินใจไปแจ้งความและขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที เนื่องจาก น.ส.ฝ้าย รู้ว่า ป้ายประกาศที่ติดไว้ตามหาแมวที่หายไปนั้น มีชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ ให้ผู้พบเห็นแมวแจ้งเบาะแสมาที่ตัวเอง จะเป็นกลายเป็นการบอกที่อยู่ห้องพักของตัวเองให้นายประทีปผู้ต้องหารู้ เพราะนายประทีปสามารถติดต่อ น.ส.ฝ้ายได้ จากเบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.ฝ้ายเอง ที่ติดอยู่ในใบประกาศตามหาแมวนั้นเอง ส่วนสาเหตุที่นายประทีปย่ามใจหลังก่อเหตุข่มขืน น.ส.ฝ้ายไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วโทรศัพท์ไปขอร่วมหลับนอนอีกครั้งที่สองนั้น
เนื่องจากนายประทีปคิดว่า น.ส.ฝ้ายคงจะอับอายไม่กล้าไปแจ้งความเพราะหลังก่อเหตุก็ยังไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัว จึงย่ามใจคิดว่า น.ส.ฝ้ายไม่กล้าแจ้งความเอาผิด จึงโทรศัพท์เข้าไปหา น.ส.ฝ้ายอีก เพื่อขอหลับนอนด้วย โดยที่ไม่รู้ว่าการโทรศัพท์ไปขู่ น.ส.ฝ้ายให้มาร่วมหลับนอนในครั้งนี้ จะสร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้ น.ส.ฝ้ายตัดสินใจแจ้งความต่อตำรวจให้ติดตามจับกุมตัวนายประทีปให้เร็วขึ้นเหมือนกัน
ในที่สุดนายประทีปก็ถูกจับกุมพร้อมกับคำให้การรับสารภาพว่า เพราะเห็น น.ส.ฝ้ายมีหุ่นและรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณดีคล้ายนางแบบสาว จึงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา จึงคิดแผนออกอุบายช่วยตามหาแมวและใช้จังหวะที่ น.ส.ฝ้ายเผลอและปลอดคน จึงใช้อาวุธมีดทำครัวปลายแหลมจี้บังคับเข้าห้องแล้วใช้กำลังข่มขืน เบื้องต้นหลังควบคุมตัวนายประทีปผู้ต้องหาได้ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล ขณะที่กำลังทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ นายประทีปถูกตั้งข้อหาด้วยกัน 2 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึง 20 ปี และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี และยังถูกฝากขังอยู่ที่ศาลเป็นผัดที่ 2 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหารายนี้เอาไว้ด้วย
น่าสนใจว่า ก่อนหน้านี้นายประทีปเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหาชิงทรัพย์ ก่อนที่จะพ้นโทษออกมาและไปสมัครเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และถูกส่งตัวมาทำงานในเขต อ.บางใหญ่ แล้วก็มาก่อเหตุในที่สุด โชคดีที่ น.ส.ฝ้ายไม่ได้ร้องขัดขืนหรือพยายามต่อสู้ ไม่อย่างนั้น ใครจะรู้ว่า น.ส.ฝ้ายจะมีชีวิตรอดออกมาขอความช่วยเหลือตำรวจ จนสามารถติดตามจับกุมนายประทีปได้ ก่อนที่จะไปก่อเหตุในลักษณะนี้ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ใครอีกกี่คน ซึ่งเป็นบทเรียนให้แก่หญิงสาวที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าจะต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้ และการแต่งกายควรมิดชิดรัดกุม
ส่วนบริษัทห้างร้านที่พึ่งพาพนักงานรักษาความปลอดภัยจากบริษัทยามควรตรวจสอบประวัติและคัดเลือก บุคคลที่ไม่เคยก่อเหตุมาทำงานในด้านนี้ เพราะแทนที่จะมาดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่กลับกลายเป็นผู้มาก่อเหตุเสียเอง ดังตัวอย่างของนายประทีป ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติย้อนหลังแล้วพบว่า นายประทีปเคยก่อเหตุชิงทรัพย์จนถูกดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง มาในวันนี้จะขยับกลายเป็นผู้ต้องหาที่ข่มขืน กักขังหน่วงเหนี่ยวกระทำชำเราไปแล้ว
- ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ -