
ปะทะอีกทหารไทยเจ็บ2เขมรปล่อยงูใส่
ปะทะอีก 5 ทุ่ม 7 โมง ทหารไทยเจ็บเพิ่ม 2 นาย ระบุเขมรใช้ไสยศาสตร์ ส่งทหารลิงลมมาพรางตา ยิงไม่ตาย กระโดดไปมาและหายตัวได้-ปล่อยงูเห่า หวังใช้งูฆ่าแทนกระสุน ล่าสุดเขมรยิงปืนใหญ่เข้าใส บริเวณปราสาทตาควาย พ่อค้าแม่ค้าสะงำทั้งไทยเขมรลุ้นเปิดด่านหลังปิดยาวร่วม
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุยิงปะทะกันอีกครั้งเมื่อคืนนี้ที่บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 30 เม.ย. และเสียงปืนจากการปะทะโดยทหารกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธปืนประจำกาย เข้าใสทหารไทย จากนั้นก็เริมหนักขึ้นโดยใช้อาวุธปื ค. อาร์พีจี และระเบิดขว้างมือ จนเวลา 01.00 -02.00 น. กัมพูชาใช้อาวุธปืน เอ็ม 79 เข้ามาตกในพื้นที่ปราสาทตาควาย ส่งเสียงดังมาถึงพื้นที่ ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
โดยการปะทะด้วยอาวุธปืนเอ็ม 79 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็เงียบไป หลังจากนั้นก็เป็นการใช้ปืนเล็ก ปืนประจำกายปะทะตลอดแนวถึงปราสาทตาเมือนธม จนถึงเวลา 07.00 น.วันนี้ ( 1 พ.ค.) จึงสงบลง
พ.อ.ปรีดา บุตราช หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า ได้ทำการชี้แจงจากเหตุการณ์ ว่าสำหรับการสู้รบของทหารกัมพูชาขณะนี้เริ่มมีขวัญกำลังใจที่ตกต่ำ เนื่องจากขาดเสบียง และไม่ได้รับความเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง อีกทั้งกัมพูชาได้รับข่าวว่าทหารไทยมีการส่งเสบียงจากแนวหลัง
โดยประชาชนที่ร่วมกันบริจาคมา รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สนับสนุนขึ้นมาแนวหน้าตลอดเวลาเวลา ทำให้น้ำหนักในการปะทะของกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นการรบรูปแบบใด เริ่มจะไม่มีทิศทาง และแผนการปฏิบัติจะไม่เป็นรูปแบบ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวก็เป็นผลห้ฝ่ายทหารไทย คาดเดาอารมณ์ของทหารกัมพูชาได้ยากขึ้นว่าจะเปิดฉากใช้อาวุธยิงเข้าใส่ทหารไทยเมื่อใด
จากการปะทะกันมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อ ส.ต.รัฐพล ครองยุทธ สังกัด ร. 8 พัน 2 ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ส่วนอีกนายยังไม่ทราบชื่อ และถูกน้ำตัวส่ง รพ.พนมดงรักแล้ว
แหล่งข่าวสายทหารเปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ปะทะปราสาทตาควาย พบทหารลิงลม เข้ามาหลอกพรางตา ที่เวลายิงแล้วไม่ตายกระโดดหลบไปมา และปีนขึ้นต้นไม้และหายตัวได้ ซึ่งเชื่อว่าทางทหารกัมพูชาได้เล่นไสยศาสตร์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไทยกำลังใช้วิธีแก้ไสยศาสตร์ โดยไม่ขอเปิดเผย อีกทั้งยังมีการปล่อยงูเห่า เข้ามาในเขตประเทศไทยบริเวณปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการรบแบบใหม่ที่ทหารกัมพูชานำมาใช้
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้( 1 พ.ค.) มีชาวบ้านที่เป็น ชรบ.หมู่บ้าน บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ถูกงูเห่าฉก และพ่นพิษเข้าที่ตาได้รับบาดเจ็บ ขณะเดินทางกลับเข้าบ้านเพื่อไปตรวจดูความเรียบร้อยบ้านของตัวเอง หลังจากที่ออกตรวจบ้านเรือนประชาชนตลอดทั้งคืน ชาวบ้านและทหารที่อยู่ในพื้นที่จึงช่วยกันนำตัวส่ง รพ.พนมดงรัก ทราบชื่อ คือนายศุภชัย กองสูงเนิน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม. 16 บ้านไทยสันติสุข อ.พนมดงรักษา โดยแพทย์ได้ทำการล้างตา และบาดแผล ซึ่งอาการดีขึ้นแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่าทางกัมพูชาได้เปิดรับนักรบรับจ้างเข้าทำการสู้รบกับทหารไทยในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีการนำกองกำลังทหารเวียดนาม พร้อมเครื่องกระสุนปืนเล็ก และปืนใหญ่ เข้ามาสมทบกับทหารที่อยู่ในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา หลังจากที่ถูกทหารไทยยิงถล่มส่งผลให้รถติดเครื่องยิงจรวด บีเอ็ม 21 พังเสียหาย 2 คัน จากทั้งหมด 8 คัน ที่จอดอยู่บริเวณบ้านทะมอโดน ต.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา และมีการเคลื่อนย้ายสถานที่ตั้งตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ทหารไทยจับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ทางการทหารได้
ส่วนที่ศูนย์ผู้อพยพเทศบาลนิคมปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นส.เรยา แสงตะวัน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม. 19 บ้านเขาโต๊ะ ต.บักได อ.พนมดงรัก เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งขณะศพตั้งอยู่ที่วัดนิคมปราสาท ต.ปรือ อ.ปราสาท ทั้งนี้ยังพบศพนางทอง ขันติวงศ์ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม. 19 บ้านเขาโต๊ะ ต.บักได อ.พนมดงรัก เสียชีวิตด้วยโรคชรา ขณะนี้ศพตั้งอยู่ที่วัดบ้านบัลลัง ตรงข้าม รพ.ปราสาท
และสถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลา 11.15 น.วันที่ 1 พ.ค. ทหารกัมพูชาได้ปะทะกับทหารไทย โดยทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้าใส เสียงดังสนั่น นานประมาณ 5 นาที จากนั้นเสียงปืนก็เงียบไป โดยจุดที่มีการปะทะอยู่ที่บริเวณปราสาทตาควาย ในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ไทย-เขมรเตรียมสินค้ามารอเปิดด่านช่องสะงำ
เมื่อเวล 06.00น.จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มีประชาชนทั้งชาวไทย กัมพูชา พ่อค้า แม่ค้าจากทั้ง 2 ประเทศ โดยมีเหล่าบรรดาพ่อค้าชาวไทย ขนไข่ไก่ ไข่เป็ด จำนวน 2 คัน รถขนพืชผักทางการเกษตร จำนวนประมาณ 5- 6 คัน นำสินค้ารอลุ้นการเปิดจุดผ่านแดนช่องสะงำ เพื่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน หลังทางหน่วยความมั่นคงประสานงานปิดด่านถาวรช่องจอม ช่องสะงำชั่วคราวเป็นเวลาร่วม 10 วันแล้ว
จากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทยกัมพูชาที่ปราสาทตาควาย ปราตาเมือนธม ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และเหตุปะทะจากความเข้าใจผิดจากโซนิคบอม ที่ภูมะเขือ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นผลเกิดการปิดจุดผ่านแดนถาวร 2 จังหวัดสุรินทร์ศรีสะเกษยาวในรอบ 5-6ปี
ขณะที่ตลาดฝั่งกัมพูชาตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตรงกันข้ามจุดตำรวจตรวจคนเข้าเมืองศรีสะเกษ จุดนายด่านศุลกากร ห่างออกไปประมาณ100-120 เมตร มีประชาชนชาวเขมรรอเปิดด่านถาวรช่องสะงำ เพื่ออกไปซื้อหาสินค้าการอุปโภคบริโภคที่ตลาดไทยรับฤดูกาลทำนา
นายนิธิต บัวจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 4 บ้านหมื่นสังข์ ตำบลบัวเชด อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ พ่อค้ายางรถยนต์ กล่าวว่า รอลุ้นว่าจะเปิดจุดผ่านแดนถาวเมื่อไหร่ เพราะการปิดพรมแดนส่งผลทำการค้าขายลำบากมากขึ้น หากเปิดได้ก็จะส่งผลให้เกิดการทำมาหากินให้ดูดีขึ้น เพราะบางคนเขาก็แย่บางคนเขาไม่มีอาชีพอื่นในการรองรับ หากคนอื่นมีอาชีพแล้วเขาก็จะมีวิธีการอื่นได้ดีขึ้นสามารถพยุงความเป็นอยู่ได้ หากมีอาชีพเดียวก็คงลำบาก อยากให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศนี้ได้พูดคุยกัน มีอะไร ก็คุยกันช่วยทำให้ประชาชนทำมาหากินได้ ปิดด่านอย่างนี้ก็เดือดร้อนทั้งชาวไทยและชาวเขมร
"นายกฯ"เสียใจเหตุปะทะชายแดนเขมร
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ถึงปัญหาการสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน และทหาร ซึ่งตนขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสีย ไม่ว่าจะที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต และต้องขอชื่นชม ในความเสียลสะของทหารกล้าทั้งหลายที่เสียสละพลีชีพเพื่อประเทศชาติ ซึ่งการปะทะนั้น มีการเจรจากันมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังมีการปะทะเกิดขึ้น แต่สถานการณ์เริ่มดี โดยไม่มีการใช้อาวุธหนักเข้ามาเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นแนวโน้มในขณะนี้เป็นไปในทิศทางบวก อย่างไรก็ตามทางฝ่ายเราแต่ก็ไม่ประมาทและยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งประชาชน ยังมีความสับสน เรื่องอธิปไตย ซึ่งตนขอยืนยันว่าตลอดการปะทะ ประเทศไทยไม่มีการเสียอธิปไตย และไม่มีการถอยร่นให้ทหารกัมพูชา และไม่ยินยอมให้เข้ามารุกล้ำแน่นอน ส่วนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีบ้านพักอาสัยในพื้นที่นั้น เรื่องนี้คงจะต้องรอดูสถานการณ์ต่ออีกสัก 1 - 2 วัน
นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชายื่นร้องไปยังศาลโลกเพื่อให้ตีความเรื่องเขาพระวิหาร ว่า ขณะนี้ฝ่ายเรายังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่ทางสถานทูต หรือ ไอซีเจ ได้รับเอกสารแล้ว และจะได้มีการดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงาน ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่จะถึงนี้ จะเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุม รวมทั้งตั้งกรรมการขึ้นมาดูเรื่องมรดกโลก ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม -มิถุนายน นี้ อย่างไรก็ตามตนขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ถึงแม้จะมีการยุบสภาไป แต่รัฐบาลรักษาการยังทำหน้าที่อย่างเต็มที่
นายกฯ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่เปิดถนนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ถือเป็นผลงานของรัฐบาลที่ การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเนื่องจากภาคเอกชน เกรงต่อเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่รัฐบาลนี้ได้ให้ ทหารเข้าไปดำเนินการจนแล้วเสร็จ