
เอฟ16บินข่มขวัญเขมรเกิดปะทะภูมะเขือ
เครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 2 ลำ บินข่มขวัญเขมรบริเวณภูมะเขือเขาพระวิหาร ส่งผลให้เกิดเหตุปะทะนาน 30 นาที ชาวบ้านอพยพ - วิ่งลงหลุมหลบภัยวุ่น เขมรยื่นจดหมายประท้วงสถานทูตไทย
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 26 เม.ย. ได้มีเครื่องบิน F 16 จำนวน 2 ลำ บินลาดตระเวนในเขตน่านฟ้าไทยบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร โดยบินโฉบเรียบชายแดนมาจากทางด้าน ซำแต ต.ภูผาหมอก ผ่าน ผามออีแดง ต.เสาธงชัย และ ภูมะเขือ ต.โดนเอาว์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยในระหว่างการบินลาดตระเวนผ่านบริเวณดังกล่าวเครื่องบิน F 16 ทั้ง 2 ลำ ได้เกิดโซนิค บูม เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะ ส่งผลให้ทหารกัมพูชาที่ภูมะเขือแตกตื่นเข้าใจว่าถูกฝ่ายไทยโจมตี จึงระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่เครื่องบินทั้ง 2 ลำ และยิงจรวด อาร์พีจี ปืน ค. และ ปรส. ข้ามมาฝั่งไทยระลอกหนึ่ง ฝ่ายไทยจึงยิงอาวุธประจำกายโต้ตอบ เกิดการปะทะขึ้นอย่างดุเดือดประมาณ 30 นาที จนเมื่อเวลา 14.20 น.เสียงปืนจึงสงบลง
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนตั้งแต่ ต.ภูผาหมอก ต.เสาธงชัย และ ต.โดนเอาว์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พากันแตกตื่นเก็บข้าวของและเอกสารสำคัญที่เตรียมไว้ออกเดินทางมุ่งหน้าเข้า ศูนย์อพยพที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์กันจ้าละหวั่น เหลือเพียงคนหนุ่มฉกรรจ์ที่อยู่เฝ้าทรัพย์สินในหมู่บ้าน แต่ต้องผิดหวังกันอย่างหนักเมื่อไปถึง ได้รับการชี้แจงว่าเป็นเหตุการณ์เข้าใจผิด ขณะนี้ได้มีการประสานงานกันเข้าใจแล้ว พร้อมกับบอกให้ชาวบ้านกลับบ้าน โดยแนะนำว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจให้อาศัยหลุมหลบภัยเป็นที่กำบังก่อน รอคำสั่งอพยพจากทางการก่อนจึงค่อยลงมา ส่งผลให้ชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ ประจำที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ เนื่องจากเห็นว่าไม่ให้ความดูแลชาวบ้านเท่าที่ควร
นางหนูแดง ชัยมีแรง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 500 หมู่ 12 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเพิ่งออกมาจากหลุมหลบภัย หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ตนได้ยินเสียงเครื่องบินเสียงดังมาก จำนวน 2 ลำ บินอยู่เหนือหมู่บ้านภูมิซรอลใกล้กับเขาพระวิหาร ซึ่งปรากฏว่าขณะที่เครื่องบิน ๆ วนมารอบที่สอง ใกล้กับเขาพระวิหาร ก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนใหญ่ดังขึ้น 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เห็นว่าทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่ใส่เครื่องบินของไทย ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณภูมะเขือจึงได้ยิงโต้ตอบใส่ทหารกัมพูชาที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเสียงดังมาก ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน จึงรีบวิ่งเข้าหลุมหลบภัยที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อความปลอดภัย เพื่อรอรถกลับมารับอีกรอบ แต่ว่าขณะนี้เสียงปืนได้สงบลงแล้ว พวกตนจึงจะไม่ไปที่ศูนย์อพยพ แต่ว่าจะอยู่ที่บ้าน และจะเตรียมสิ่งของเอาไว้ หากว่ามีการปะทะกันขึ้นมาอีกครั้ง ตนก็พร้อมที่จะอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่ที่ศูนย์อพยพได้ทันที
ทั้งนี้แม้ทางการจะประกาศว่าเหตุการณ์บริเวณชายแดนเขาพระวิหารจะสงบเรียบร้อยลงแล้ว แต่ทางชาวบ้านที่อพยพออกจากหมู่บ้านไป และได้รับอนุญาตให้กลับเข้าบ้านเรือนของตัวเองได้ก็ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ เนื่องจากเคยประสบเหตุการณ์ร้ายแรงมาแล้ว หลายครอบครัวที่มีรถส่วนตัวบอกว่าจะไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่ในตัวอำเภอกันทรลักษ์ หรือ ต่างอำเภอที่ไกลออกไป จนกว่าสถานการณ์ที่ จ.สุรินทร์ และ ชายแดนเขาพระวิหารจะสงบเรียบร้อยจึงจะกลับมา
เขมรยื่นจดหมายประท้วงสถานทูตไทย
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการผ่านเว็บไซต์ เผยแพร่จดหมายประท้วงที่ยื่นต่อ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยชี้แจงถึงการล่วงละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาของไทยวานนี้ (25 เม.ย.) ว่า เมื่อเวลา 13.45 น. มีเครื่องบินของกองทัพไทย 2 ลำ ล่วงล้ำเข้ามาใน น่านฟ้าบริเวณปราสาทตาเมือนและตาควาย ของกัมพูชา ต่อมาเวลา 13.55 น. กองทัพไทยเปิดฉากยิงกระสุน ปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร เข้ายังพื้นที่บ้านโคก มอร์น จ.อุดรมีชัย ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาราว 22 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีพลเรือนอยู่อาศัยหนาแน่น โดยทางการกัมพูชายังคงยืนยันสิทธิในการ ป้องกันอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของกัมพูชา