ฤาซีเรียจะเปลี่ยนระบอบ | คมชัดลึก

 หากว่ากันเฉพาะความโหด กองกำลังความมั่นคงของซีเรียก็จัดการกับประชาชนอย่างหนักไม่แพ้ที่ใด ยกเว้นลิเบีย แต่รัฐบาลดามัสกัสไม่ใช่เพื่อนรักของวอชิงตันมายาวนานเหมือนกับบาห์เรนหรือเยเมน กระแสการกดดันของชาติตะวันตกต่อซีเรียจึงเป็นไปด้วยความหนักหน่วง แม้ว่ายังเป็นแค่วาจาไม่ถึงขึ้นทิ้งระเบิดเล่นงานแบบกัดดาฟีโดน แต่ก็ต้องกล่าวว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด กำลังลำบากจากศึกกระหนาบทั้งในและนอกประเทศ อัสซาดยังไม่บ้าพอที่จะทำสงครามกลางเมืองขนานใหญ่แบบกัดดาฟี หนึ่งนั้นยังเชื่อมั่นว่าความแตกร้าวของประเทศยังพอกอบกู้ได้ อีกหนึ่งนั้นก็เพราะก่อนหน้านี้กำลังปรับตัวเข้าหาชาติตะวันตกอยู่พอดี

 พวกกุมอำนาจในซีเรียมีปัญหาด้านเชื้อชาติเป็นปมลึกกับชาวเคิร์ดและชีอะต์ที่ไม่ใช่อลาวิต เรื่องนี้ถูกรุมเร้าใหญ่โตจากการเรียกร้องสิทธิของประชาชน สมทบด้วยศัตรูเก่าที่จ้องสนับสนุนด้านอาวุธจากบางฝ่ายในเลบานอน โดยการรู้เห็นเป็นใจของปรปักษ์ในตะวันตกและอิสราเอลอีกที รัฐบาลใช้การปราบปรามแบบชาติอื่นๆ ในภูมิภาคทำ จนมีคนตายหลายร้อย ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ ทหารก็ยิงประชาชนร่วงไปอีก 20 แต่อัสซาดก็ออกมาผ่อนปรนปฏิรูปเหมือนที่หลายชาติก็ทำ การที่เป็นเช่นนี้อาจเนื่องจากอัสซาดกำลังรับไมตรีจากชาติตะวันตกโดยเฉพาะรัฐบาลโอบามาอยู่ เพียงแต่ประเทศที่กำลังจะปรับตัวไปสู่ทิศทางที่เป็นประชาธิปไตยต้องเผชิญกับอุบัติเหตุนี้เสียก่อน

 ไม่กี่ปีที่ผ่านมา โอบามาลดท่าทีเป็นศัตรูต่อซีเรีย เพราะเห็นว่าการแก้ปัญหาผู้ก่อการร้ายแบบเดิมๆ นั้นไร้ประโยชน์ ในเมื่อเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนต่อรัฐบาลดามัสกัสผู้อุปถัมภ์ใหญ่ของฮามาส ก็ทำให้อัสซาดลดการขัดขวางแผนสันติภาพปาเลสไตน์

 บรรยากาศโดยรวมของภูมิภาคก็ดีขึ้น ซีเรียก็มีโอกาสดีในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับความต้องการของอัสซาดซึ่งเป็นผู้มีลักษณะอ่อนโยนกว่าผู้ปกครองตะวันออกกลางคนอื่น

 เมื่อเกิดเหตุการณ์ลุกฮือของประชาชนคราวนี้ อัสซาดจึงเดินเกมอย่างระมัดระวัง แต่ก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่าทหารและพรรคบาธหนุนหลังเขายังไม่ลังเลเสมอ ซึ่งจะจริงหรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป เงื่อนไขนั้นก็ต้องดูที่ความแรงของประชาชนในการเดินเกมและเวลา ว่ามีพอต่อการพบกันครึ่งทางหรือไม่