ข่าว

ฉวยโอกาสภัยสงครามขโมยขี้ยางชาวบุรีรัมย์

ฉวยโอกาสภัยสงครามขโมยขี้ยางชาวบุรีรัมย์

24 เม.ย. 2554

ตำรวจภูธรบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุม 5 โจ๋วัยรุ่น ร่วมกันลักทรัพย์ ขี้ยางพารา ของเกษตรกรและชาวบ้านอพยพหนีภัยการสู้รบไทย-กัมพูชา รับสารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง ขายกิโลกรัมละ 50-100 บาท เงินที่ได้นำไปเที่ยวเตร่

 เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 เม.ย.2554 พ.ต.ต.แก้วเก้า แพงศรี สว.สส.สภ.บ้านกรวด พร้อมด้วยตำรวจจำนวนหนึ่ง ร่วมกันสอบสวนหลังจับกุมตัว นายอรรถพล ชารัมย์ อายุ 25 ปี นายเวียงนนท์ สีสลับ อายุ 22 ปี นายวิทวัส กองเลิศ อายุ 19 ปี นายอนุชา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎร หมู่ 9 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และนายสุรศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 9 ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง ขี้ยางพารา บรรจุอยู่ในกระสอบถุงปุ๋ยสีขาวและถุงพลาสติก จำนวนประมาณ 30 กิโลกรัม โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนยางพารา ของนายอธิศักดิ์ จันทีนอก อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 9 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และสวนใกล้เคียง

 ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุลักทรัพย์ที่สวนยางพารา บ้านสายโท 8 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อเดินทางไปถึงพบชาวบ้านหลายคนแจ้งว่าได้มีคนร้ายเข้าไปทำการลักขี้ยาง ในสวนของนายอธิศักดิ์ จันทีนอก และได้ไล่ติดตามมาพบขี้ยางของกลางที่คนร้ายทิ้งไว้ที่บ้านของนายอรรถพล ชารัมย์ แต่คนร้ายได้หลบหนีไป แต่ชาวบ้านทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นใคร เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนจึงไม่สามารถดำเนินการได้ จนต่อมาตอนเช้าได้จึงได้เรียกผู้ต้องหาทั้งหมด มาสอบถามและให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักทรัพย์(ขี้ยาง) จริง ก่อนจะนำไปชี้ที่จุดเกิดเหตุ

 จากการสอบถามนายอรรถพล ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกทำมาหลายครั้งแล้ว โดยขี้ยางที่ได้จะนำไปขายให้กับร้านค้าที่รับซื้อขี้ยาง โดยขายได้กิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนเงินที่ได้จะนำไปซื้อเหล้าและนำไปเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง

 จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ (ขี้ยาง) ของผู้มีอาชีพกสิกรรม โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมตัวผู้ต้องหาครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่ง ตำรวจภูธร ภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์  ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดทุกประเภท ในช่วงที่เกิดมีการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์อพยพ เพื่อความปลอดภัย แต่มีกลุ่มมิจฉาชีพ ออกมาขโมยลักทรัพย์ชาวบ้าน เป็นการซ้ำเติมคนไทยด้วยกัน  ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศให้ อ.บ้านกรวด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ในภาวะสงครามมาตั้งวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา

 ทาง พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์  ได้สั่งการให้ สภ.บ้านกรวด และ สภ.โคกกระชาย  รวมทั้ง สภ.ใกล้เคียง  จัดกำลังตำรวจวันละ 50 นาย สนธิกับ อส. และฝ่ายปกครอง  ผลัดเปลี่ยนเข้าไปลาดตระเวรรักษาความปลอดภัย และดูแลทรัพย์สินของประชาชน  ในหมู่บ้าน ทั้ง 20  หมู่บ้านใน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลจันทบเพชร  และ ต.สายตะกู ที่ชาวบ้านอพยพทิ้งบ้านเรือนออกมาอยู่ที่ศูนย์อพยพ ทั้ง 6 แห่ง ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านกรวด  เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มโจรผู้ร้าย กลุ่มมิจฉาชีพ หรือผู้ที่จะฉวยโอกาส เข้าไปลักขโมยทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังได้จัดกำลังส่วนหนึ่ง  เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ศูนย์อพยพทั้ง 6  แห่งด้วย