
ชายแดนสุรินทร์ไทย-เขมรปะทะทั้งวัน
ชายแดนไทย-เขมรปะทะเดือดอีกระลอกสาม สั่งอพยพชาวบ้านออก ด้าน จ.สุรินทร์ คุมเข้มคนต่างด้าวอาจเป็นสายข่าวเขมร เข้ามาชี้จุดยุทธศาสตร์ คาดสถานการณ์ยืดเยื้อ กระสุนปืนใหญ่ลงหมู่บ้านกว่า 10 ลูก รมต.องอาจฉุนขาด แอบเปิดด่านให้นักพนันข้ามไปเล่นคาสิโน สั่งปิดทันที
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 24 เมษายน 2554 เกิดเหตุปะทะกันอีกระลอกระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรักตลอดแนวจนถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก โดยทหารทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนปืนกลขนาดเล็ก และอาวุธประจำกายเข้าใส่กันอย่างดุเดือดขณะที่มีเสียงปืนใหญ่ยิงสนับสนุนดังกระหึ่มกึกก้องทั่วทั้งบริเวณ การสู้รบกันใช้เวลายาวนานกว่า 2 ชั่วโมงเสียงปืนจึงสงบลง
จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่มีลูกกระสุนปืน ปรส.ขนาด 75 มม.จำนวน 5 ลูก ตกเข้าใส่ที่บ้านนายพลอน โคประโคน บ้านเลขที่ 26 หมู่ 8 บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ,สุรินทร์ กระสุนตกบริเวณหลังห้องน้ำที่เพิ่งสร้างใหม่ แตกระเบิดเป็นหลุมบริเวณกว้าง
นายพลอน เล่าว่า ขณะกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ได้ยินเสียงหวีดก้องจึงวิ่งออกมาดูพบกระสุนปืนตกลงแล้วแตกระเบิดทันที ตนตกใจวิ่งเข้าหลบที่หน้าบ้านไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนอีกลูกตกลงที่บ้านนายบู เทือกสม ใกล้ๆกันเป็นโรงเก็บรถ ลูกกระสุนปืนไม่ระเบิด นอกจากนั้นอีก 3 ลูกก็ตกบริเวณใกล้กัน แต่ไม่แตกระเบิดเช่นกัน ส่วนชาวบ้านที่ยังหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านได้วิ่งหลบกันจ้าละหวั่น
ต่อมาเวลา 11.40 น. ได้เกิดเหตุปะทะกันอีกรอบ เสียงปืนใหญ่ปืนกลเล็กได้ยินมาถึงในหมู่บ้านดังถี่ยิบ และมีรถเกราะทหารวิ่งนำทหารผู้บาดเจ็บมาส่งที่ รพ.พนมดงรัก ทราบชื่อคือร้อยตรีอดิศักดิ์ บุ่งนาม อายุ 42 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมวดปืนเล็ก สังกัด ร้อย ร.2341 ฐานปฎิบัติการตาเมือนธม ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณช่องท้องจากสะเก็ดระเบิด อาการสาหัส และนำส่งต่อที่ รพ.สุรินทร์เพื่อรักษาต่อไป
นอกจากนี้ยังมีทหารบาดเจ็บเพิ่มอีก 2 นาย คือ พลทหารชิดพล พุทธไทสง สังกัด ร.23 พัน 4 และอาสาสมัครทหารพรานกรกต ดีดวงพันธ์ สังกัดกองร้อยทหารที่ 2606 ส่วนยินเสียงปืนใหญ่ยังดังสนั่นหวั่นไหว ตลอดแนวรบอย่างไม่ขาดระยะ เสียงปืนก็ยังดังกึกก้องได้ยินมาจนถึงตัวอำเภอพนมดงรักที่อยู่ห่างกว่า 15 กิโลเมตร
สำหรับการสู้รบครั้งนี้แหล่งข่าวทางทหาร ระบุว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 03.00 น. ทางฝั่งกัมพูชาสั่งระดมกำลังทหารราบพร้อมขนปืนใหญ่และกองกำลังติดอาวุธหน่วยรบพิเศษ 911จำนวน 200 นาย นำโดยพลโทฮุน มาเน็ต บุตรชายฮุนเซนที่เดินทางมาบัญชาการรบด้วยตนเอง และเปิดฉากยิงปะทะประปราย ตั้งแต่ ตี 3 จวบจนรุ่งเช้าเวลา 09.45 น.จึงรุกหนัก ทำให้มีทหารบาดเจ็บและคาดว่าน่าจะมีทหารบาดเจ็บเพิ่มจำนวนขึ้นอีก
ขณะที่ทางฝั่งไทยได้ระดมยิงปืนใหญ่สนับสนุนตอบโต้การต่อสู้ครั้งนี้อย่างถี่ยิบเช่นเดียวกัน และมีรายงานว่ากัมพูชามีการเสริมรถถังและเครื่องยิงจรวดแบบ บีเอ็ม 21 เข้ามาในพื้นที่เพื่อตอบโต้ฝั่งไทย ทำให้มีการสั่งอพยพผู้คนออกจากหมู่บ้านตามแนวชายแดนและห้ามคนแปลกหน้าหรือต่างด้าวเข้าพื้นที่ เพื่อป้องกันเข้ามาเป็นสายลับชี้จุดยุทธศาสตร์ทางทหารของไทย
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ดูแลประจำในพื้นที่ ระบุว่า วันนี้มีการประชุมประเมินสถานการณ์ระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และทางกองทัพแล้วเห็นว่า สถานการณ์การสู้รบยังดำเนินอยู่และยืดเยื้อ เพราะมีการเสริมกำลังเข้าประชิดชายแดนจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งการสู้รบอาจยังไม่จบง่าย ส่วนผู้เสียชีวิตสถิติยังคงเดิม มีเพียงทหารบาดเจ็บเพิ่มตอนสู้รบเมื่อเช้านี้เพิ่มอีกเท่านั้น และได้สั่งให้อพยพชาวบ้านบางหมู่บ้านในเขต อ.กาบเชิง ที่ไม่ยอมออกจากบ้านมาอยู่ที่ศูนย์อพยพ เพราะอ้างว่าเมื่อคราวเกิดการสู้รบที่ปราสาทพระวิหารทางการก็สั่งอพยพพวกเขามาอยู่ที่ศูนย์พักพิงบ้านโคกตะเคียนแล้ว แต่ครั้งนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไร มาคราวนี้พวกเขาจะไม่ยอมอพยพออกอีก โดยตนให้นายอำเภอไปทำความเข้าใจแล้ว เกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัยเพราะการสู้รบยังไม่จบสิ้นง่ายๆ
สำหรับศูนย์พยพขณะนี้ได้เปิดเพิ่มเติมถึง 22 ศูนย์แล้ว รวมผู้อพยพกว่า 32,000 คน แล้ว ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่ากระสุนใหญ่ตกลงที่ รพ.พนมดงรัก นั้น ไม่เป็นความจริง และที่มีข่าวว่าทหารในแนวหน้าขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนักนั้นก็ไม่จริงเช่นกัน ทางกองทัพดูแลอย่างเต็มที่มีระบบการจัดส่งกำลังบำรุงพร้อม
ส่วนที่ด่านถาวรช่องจอม -โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง ได้แอบเปิดประตูด่านให้นักเล่นการพนันเข้าไปเล่นในบ่อนคาสิโนฝั่งกัมพูชาเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงนั้น ตนได้สั่งการให้ปิดด่านทันที ไม่ควรเปิดในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าอาจมีคนต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่และเป็นผู้สำรวจชี้เป้าทางยุทธศาสตร์ให้อีกฝ่ายและกำชับให้เพิ่มชุด ชรบ.ประจำหมู่บ้านได้ตรวจตราบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวดด้วย
ขณะที่ ตามศูนย์อพยพต่างๆทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้ส่งนักศึกษาฝึกงานและเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้าไปจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตร่วมกับโรงพยาบาลจิตเวช นครราชสีมา แก่ผู้อพยพเกรงว่าอาจจะเครียดขณะมาพักพิงในศูนย์ โดยเฉพาะเด็กๆจำนวนมากที่ติดตามผู้ปกครองบางคนมีอาการซึมเศร้า หวั่นวิตก ต้องได้รับการดูแลรักษาทางจิตใจ โดยจัดกิจกรรมการเล่นเกมส์ แจกนม และอาหารรวมทั้งการตรวจสุขภาพ และการสำรวจภาวะโภชนาการพร้อมไปด้วย สำหรับตามศูนย์อพยพ 22 ศูนย์ มีชุดดูแลที่ระดมมาจากส่วนราชการทุกภาคส่วนเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อพยพอย่างเต็มที่แล้ว