
แม่ทัพภาค2หยันโฆษกกห.เขมรบีบน้ำตา
"แม่ทัพภาค 2" หยัน "โฆษกกห.เขมร" บีบน้ำตาเล่นละครเสแสร้งออเซาะนายกลางจอ ย้ำชัดไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมี และคลาส เตอร์บอมม์ ถล่มกัมพูชา เย้ยไม่ใช้ก็ชนะอยู่แล้ว ฟันธงเหตุปะทะครั้งนี้มีการเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า ด่านชายแดนอรัญประเทศ ยังปกติ เขมรนับหมื่นแห่เ
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคภาค 2 กล่าวในรายเก็บตกจากเนชั่น ถึงสถานการณ์ล่าสุดของเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นตนยืนยันว่าทางฝ่ายกัมพูชาได้ยิงเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทยก่อน ทำให้ฝ่ายเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยิงตอบโต้กลับไป ทั้งที่เราไม่ต้องการที่จะยิง ส่วนที่มีการเผยแพร่ภาพข่าวกรณีที่พล.ท.ชุม สุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหมประเทศกัมพูชา ได้แถลงข่าวทั้งน้ำตาที่มีความรู้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนคิดว่าเป็นการแสดงมันเสแสร้งอย่างแน่นอน เพราะโดยส่วนตัวแล้วตนกับพล.ท.ชุม รู้จักกันดี "มันคงจะออเซาะนายมัน"
เมื่อถามว่า ที่มีข่าวออกมาจากฝ่ายกัมพูชาว่าทางฝ่ายเราได้ใช้อาวุธเคมี ใช้คลาส เตอร์บอมม์ พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน เราจะใช้ไปทำไม เราไม่ใช้ก็ชนะอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุเรื่องของไตรภาคีที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการที่จะดึงประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเราสังเกตได้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่นาน กระทรวงต่างประเทศของเรายังจดปากกาเขียนยังไม่เสร็จ ทางฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นหนังไปถึงยูเอ็นฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งดูแล้วเหมือนกับมีการเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าฝ่ายเขาเก่งมาก ส่วนเรื่องอาหารการกินของทหารในพื้นที่ไม่มีปัญหา ตนและกองทัพดูแลอย่างดี เรื่องการบาดเจ็บและเสียชีวิตของทหารฝ่ายเราไม่ต้องห้่วงทางกองทัพจะให้การดูแลอย่างดี เรื่องนี้ขอให้อย่าเป็นห่วง
"สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเตือนไปยังพี่น้องสื่อมวลชนว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์การปะทะเกิดขึ้น การไปสอบถามหรือไปพูดกับทหารบางคน ในช่วงยังมีความสับสนอยู่ ข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ตรงความเป็นจริงได้ เมื่อสื่อนำเสนอข่าวออกไปอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ " แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวและว่า สำหรับการณ์ล่าสุดในพื้นที่ตอนนี้ยังไม่สงบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางทหารจะอนุญาตให้เพียงผู้ชายเข้าไปในดูบ้านเรือนของตนเองได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ผู้หญิงและเด็กเข้าไปในพื้นที่
วิทยุเขมร"เสี้ยม"อ้างไทยส่งบินรบเตรียมถล่มเขมร
เมื่อเช้าวันนี้ (24เม.ย.) ที่ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกรุงปอยเปต อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ได้มีการเปิดด่านพรมแดนฯตามปกติเวลา 07.00 น.โดยมีชาวเขมรกว่า 1 หมื่นคนแห่เดินทางเข้ามาค้าขายและรับจ้างในตลาดโรงเกลือ โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่เคยทำการค้าอยู่บริเวณตลาดชายแดนตรงข้าม จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ของไทย ต่างแห่เดินทางมาค้าขายและซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือ หลังด่านชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ถูกสั่งปิดชั่วคราว ทำให้บริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คึกคักไปด้วยพ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชา
ส่วนนักพนันชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงเดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ ออกไปฝั่งปอยเปต ตามปกติ ยกเว้นคณะทัวร์นักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในนครวัด-นครทม จ.เสียมราฐ ของกัมพูชา ได้มีการยกเลิกทัวร์ท่องเที่ยวไปแล้วกว่า 10 คณะ ทำให้บรรยากาศด่านพรมแดนขาออกฝั่งไทยไปกัมพูชาไม่คึกคักเท่าที่ควร
ส่วนบรรยากาศในตลาดโรงเกลือ นั้น ได้มีชาวเขมรแห่ไปหาซื้อสินค้าโดยเฉพาะอาหารแห้งและเครื่องบริโภค บรรทุกใส่รถเข็นกันเต็มคันรถนำกลับไปกักตุนฝั่งกัมพูชา
แต่บรรยากาศในตลาดปอยเปต ฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่เช้ามีชาวเขมรเดินทางออกมาหาซื้อ หนังสือพิมพ์กัมพูชามาอ่านเพื่อติดตามสถานการณ์กันอย่างคึกคักทำหนังสือพิมพ์กัมพูชา ขายดีหมดลงอย่างรวดเร็ว และจากเหตุการณ์ยิงปะทะกันบริเวณชายแดน จ.สุรินทร์ จนเป็นเหตุทำให้มีทหารไทย-กัมพูชา และประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบาดเจ็บล้มตาย และไทยได้สั่งปิดพรมแดนด้าน จ.สุรินทร์ ด้วยนั้นทำให้ พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่ค้าขายในตลาดปอยเปต ต่างตื่นกลัวและเกรงว่าเหตุการณ์อาจบานปลายและอาจส่งผลกระทบทำให้ด่านพรมแดนอรัญประเทศ ถูกสั่งปิดไปด้วย ทำให้ชาวเขมรที่ค้าขายและมีฐานะ ต่างอพยพลูกเมีย และพ่อแม่ ส่งไปอยู่กับญาติและบ้านเกิดในพนมเปญแล้วกว่า 100 ครอบครัว
จากนั้นเวลาประมาณ 08.30 น.ชาวเขมรในฝั่งปอยเปต ก็เริ่มหวั่นวิตกอีกครั้งเมื่อวิทยุท้องถิ่นกัมพูชาที่ออกอากสและรับฟังได้ในตลาดปอยเปต ได้ออกอากาศเตือนประชาชนชาวเขมรให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์การสู้รบที่จะเกิดขึ้นโดยอ้างว่าประเทศไทยเตรียมส่งเครื่องบินรบมาถล่มกัมพูชา ทำให้ชาวเขมรตื่นตกใจเป็นอย่างมากมีการโทรศัพท์สอบถาม จนท.ไทย ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันจาก จนท.ฝั่งไทยว่าไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นและด่านพรมแดนอรัญประเทศ ยังปกติไม่มีอะไร จึงทำให้ชาวเขมรเริ่มสบายใจขึ้น
ต่อมาช่วงสายวันเดียวกัน ข ณะที่ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา นำกำลังออกลาดตะเวณและตรวจค้นอย่างเข้มงวดบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ และตลอดแนวชายแดน ท้ายตลาดโรงเกลือ ได้ตรวจพบกรรมกรชาวเขมรเข็นรถเข็นบรรทุกกระเป๋าเสื้อผ้าและสัมภาระจำนวนมากออกจากตลาดโรงเกลือ เพื่อข้ามไปฝั่งกัมพูชา เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าและสัมภาระของ แรงงานและพ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ กลัวเกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชา จึงเก็บเสื้อผ้าและสัมภาระ ส่งกลับกัมพูชาก่อนส่วนตัวคนยังคงทำงานและค้าขายอยู่ในตลาดโรงเกลือ
ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา เผยว่าขณะนี้ จนท.ซึ่งดูแลพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังไม่มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด เราได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อม ณ.ที่ตั้ง และติดตามข่าวสารเหตุการณ์ทางด้าน จ.สุรินทร์ เท่านั้น ขณะนี้ทุกอย่างยังคงเป็นปกติตลาดโรงเกลือ ก็ยังเปิดค้าขายกันเหมือนเดิม