
คุกตลอดชีวิต2กระเทยทำร้ายย่าโตโน่
พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต 2 กระเทย พยายามฆ่าชิงทรัพย์ ย่าโตโน่ เดอะสตาร์ ร่วม 1.5แสน ขณะที่รับสารภาพบางข้อหา โทษเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน พร้อมให้ชดใช้ทรัพย์สินที่ยังไม่ได้คืนกว่า 7หมื่น
(22 เม.ย.)ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเต้ย อรชร อายุ 23 ปี ชาว กทม. และนายธนวัฒน์ แขมคำภา อายุ 21 ปี ชาว จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันบุกรุกและชิงทรัพย์ในเคหะสถานโดยผ่านสิ่งกีดกั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 53 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า วันที่ 4 มิ.ย. 53 เวลาประมาณ 10.30 น. จำเลยทั้งสอง ปีนกำแพงบ้านและบุกรุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 182 / 82 ซอยประชาชื่น 25 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. แล้วเจตนาร่วมกันฆ่านางฮวย แซ่เตียว อายุ 90 ปี ซึ่งเป็นย่าของนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ เดอะสตาร์
โดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้ผ้า และหมอนอุดปาก ปิดจมูก ทุบตีใบหน้า ใช้เท้ากระทืบบริเวณท้องน้อย ลำตัวอย่างแรงเป็นเหตุให้นางฮวยได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติทันที จากนั้นได้ชิงทรัพย์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เงินสด สกุลต่าง ๆ นาฬิกาข้อมือ หยกเขียว และทรัพย์อื่น ๆ รวม 10 รายการ มูลค่า 146,450 บาท ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่นติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยจำเลยให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาชิงทรัพย์ฯและบุกรุกฯเท่านั้น แต่ให้การปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายอายุ 90 ปี ซึ่งชราภาพมากแล้ว ร่างกายย่อมอ่อนแอ ไม่สามารถต้านทานกำลังหรือต่อสู้ป้องกันตัวให้รอดพ้นจากการกระทำของจำเลยซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่มีพละกำลังมากกว่า การที่จำเลยใช้ผ้าและหมอนอุดปาก และจมูกของผู้เสียหายจนหมดสติและทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แสดงว่าพวกจำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า ผู้เสียหายอาจถึงแก่ความตาย ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้อื่น แต่ไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (7)ประกอบมาตรา 80 ,399 วรรคสอง และวรรคสาม ,365(2) ประกอบมาตรา 364,83เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่จำเลยรับสารภาพฐานร่วมกันบุกรุกฯ และร่วมกันชิงทรัพย์ฯ ประกอบทางนำสืบจำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงเห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 33 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันคืนเงินสด เงินสกุลต่างประเทศ หยกเขียว และทรัพย์สินอื่นที่ยังไม่คืนให้ผู้เสียหายรวม 74,580 บาทด้วย



