
ฉวยจังหวะ"สงกรานต์"สาดน้ำ..จับแก๊งยิงตำรวจ
ขบวนการค้ายาเสพติด "แก๊งท่าเรือ" พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการติดตามสะกดรอยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คนร้ายบางส่วนก่อนหน้านี้ถูกจับ แต่ยังมีคนร้ายบางส่วนที่หลบหนี แต่เมื่อ "สายลับ" หิวเงินรางวัลนำจับ 2 แสนบาท ใช้วิธีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดแจ้งเบาะแ
คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบของ กก.สส.2 บก.ศส.บช.น. เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 โดยตำรวจทั้งสองนายได้ติดตามสะกดรอย "แก๊งท่าเรือ" และ"แก๊งท่าอิฐ" ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ จากบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ภายในซอยท่าอิฐ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่คนร้ายก็ระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อรู้ว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งติดตามมา จึงใช้ปืนอาก้ายิงเข้าใส่ จนทำให้ ด.ต.อรุณ แตงสมุทร อายุ 48 ปี และ ส.ต.อ.นพดล เหมือนดี อายุ 32 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.2 บก.ศส.บช.น. ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายสุรศักดิ์ หรือ อู๊ด หรือ เอก ศิริศุภมนตรี และ นายเบน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี จึงติดตามจับกุมตัวพร้อมขยายผลจับ นายสุชาติ หรือ ธง ศรีรักษาสิน และ นายประมุข หรือ มู จุ้ยมณี พร้อมของกลางยาบ้าเกือบ 6 แสนเม็ดพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก แล้วขยายผลจนทราบว่าหัวโจกใหญ่คือ นายขวัญชัย หรือ ดำ คลองเตย จุ้ยมณี และ นายชัยมงคล หรือ เบิ้ม ปานล้ำเลิศ เกี่ยวข้องในเหตุการณ์พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วยังหลบหนีการไล่ล่า จนกระทั่ง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ตั้งรางวัลนำจับบุคคลทั้งสอง คนละ 2 แสนบาท
การติดตามไล่ล่านายขวัญชัย และนายชัยมงคล ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่พบตัว จนวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา "สายลับ" คนหนึ่งโทรศัพท์ติดต่อมายัง พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.ศส.บช.น. ว่าต้องการเงินรางวัลนำจับที่ผู้บังคับบัญชาบอกไว้ และแจ้งว่าพบเห็นนายชัยมงคลกำลังเล่นสาดน้ำอยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 ต.กระดังงา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
พล.ต.ต.รณศิลป์ สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รอง ผบก.กก.ศส.บช.น., พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.สส.2 บก.ศส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบตามที่สายลับแจ้งเบาะแสไว้ แต่การตรวจสอบค่อนข้างยากเพราะสายลับแจ้งว่า นายชัยมงคลสวมหน้ากากเล่นสาดน้ำ ชุดสืบสวนต้องปลอมตัวเป็นบุคคลทั่วไปที่เล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์ ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ และขับรถกระบะบรรทุกถังน้ำ ถือปืนฉีดน้ำ ถือขัน เพื่อให้กลมกลืนกับสถานการณ์
เมื่อมาถึงเป้าหมายที่สายลับแจ้งไว้ ชุดสืบสวนต้องงุนงงเพราะประชาชนในละแวกนั้นต่างสวมใส่หน้ากากเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งยากต่อการบ่งบอกว่าชายสวมหน้ากากคนใดคือนายชัยมงคล ทำให้ชุดสืบสวนต้องถอยกลับมาตั้งหลักเพื่อติดต่อกลับสายลับเพื่อขอความชัดเจน กว่าสายลับจะติดต่อกลับมาก็ล่วงเลยมาอีกวัน ประกอบกับมีเหตุการณ์ระทึกกลางกรุงต้องถอนกำลังกลับมาบางส่วน แต่ในที่สุดสายลับก็หาข้อมูลที่ชัดเจนถึงหน้ากาก สีเสื้อ และกางเกงที่สวมใส่ จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ระหว่างที่ชุดสืบสวน 7 นายตัดสินใจพรางตัวเข้าจับกุม นายชัยมงคลเริ่มรู้ตัวว่าตำรวจกำลังมาเยือนจึงพยายามฝ่าวงล้อมวิ่งหลบหนี แต่ชุดสืบสวนก็วิ่งไล่ตามจับกดลงพื้นพร้อมล็อกตัวได้ทันท่วงที...วินาทีนั้น ประชาชนละแวกนั้นคิดว่าเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น จนชุดสืบสวนทั้งหมดต้องแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานพร้อมแสดงหมายจับนายชัยมงคล พร้อมเร่งนำตัวออกมายังจุดที่จับกุมแล้วนำตัวขึ้นรถกระบะมาสอบสวนที่ บก.ศส.บช.น.
นายชัยมงคล รับสารภาพว่า เป็นผู้อยู่ร่วมในวันที่ก่อเหตุพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทันทีที่ทราบจึงหลบหนีไปอยู่ตามบ้านเพื่อนและบ้านญาติ จนกระทั่งถูกจับกุมตัวตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1014/2553 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2553 ในข้อกล่าวหา ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" สอบถามไปยังโรงพยาบาลตำรวจถึงอาการของตำรวจทั้ง 2 นายที่ถูกคนร้ายกลุ่มนี้ยิงถล่มเมื่อ 5 เดือนก่อน ทราบว่า ขณะนี้ ด.ต.อรุณ ยังอยู่ในอาการสาหัส ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา ส่วน ส.ต.อ.นพดล แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่บริเวณใบหน้ายังมีรอยแผลเป็นจากคมกระสุนปืนอาก้า และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแล้ว