
วิปรบ.เล็งดันกม.สำคัญ5ฉบับผ่านสภาฯ
วิปรบ. เตรียมดันกฎหมายสำคัญ 5 ฉบับผ่านสภาฯก่อนนายกฯประกาศยุบสภา
(15เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ( วิปรัฐบาล ) เปิดเผยว่า ในช่วงสุดท้ายก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา มีกฎหมายหลายตัวที่จะเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จ เช่น 1. ร่างพงร.บ.องค์การอิสระคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นองค์การอิสระที่ตั้งขึ้น จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ขององค์กรที่คุ้มครองผู้บรโภคใหม่ เนื่องจากปัจจุบันมีเพียง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งหลายคนอาจจะบอกว่าสคบ.เป็นเสือกระดาษ แต่คราวนี้จะมีองค์การอิสระคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นมา ซึ่งจะเป็นเสือที่ติดเขี้ยวเล็บ มีงบประมาณพร้อมในการที่จะคุ้มครองผลประโยชน์แก่ประชาชน
เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวอีกว่า 2. ร่างพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ สาระสำคัญจะพูดถึงเรื่องของการชุมนุม ซึ่งจะต้องมีการแจ้งการชุมนุม เพื่อให้ประชาชนในบริเวณที่มีการชุมนุมได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยจะมีมาตราการกีดขวางและหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ชุมนุมพกพาอาวุธ และให้ผู้ที่จัดการการชุมนุมต้องอยู่ในที่ชุมนุมตลอดเวลาเพื่อดูแลผู้ชุมนุม
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า 3. ร่างพ.ร.บ. ประกันสังคมและร่างพ.ร.บ.เงินทดแทน ซึ่งร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ จะออกมาตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการเข้าไปช่วยเหลือเรื่องของแรงงานนอกระบบ ทั้งนี้แรงงานนอกระบบจะเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของประเทศไทย ที่จะมีการประกันตนเองโดยที่มีรัฐสมทบเงินให้ด้วย ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่เคยออกไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ให้ผู้ประกันตนเองจ่ายเป็นรายเดือน นั่นคือการให้แรงงานนอกระบบประกันตนเองได้รับเงินสมทบ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเป็นการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกันเพื่อให้สามารถดำเนินการได้
เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า 4 .ร่างพ.ร.บ.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ก็คือ ปัญหาเรื่องมาบตาพุด ทั้งนี้มาบตาพุดได้มีการแก้ปัญหาไปแล้ว โดยใช้วิธีการประณีประนอมและใช้กฎหมายลำดับรองในการแก้ไขปัญหา แต่คราวนี้จะมีการออกกฎหมายตั้งองค์การอิสระขึ้นมา ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อความชัดเจนในการลงทุนโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย 5. ร่างพ.ร.บ.วิชาชีพแผนไทย โดยจะมีการยกระดับวิชาชีพแผนไทย ให้มีสภาวิชาชีพเหมือนกับแพทย์ในปัจจุบัน คือ จะต้องมีการขึ้นทะเบียนและจะมีสภาองค์กรวิชาชีพเป็นของตัวเอง ทั้งนี้เป็นการรักษาไว้ซึ่งวิชาชีพแผนไทย ไม่ให้สูญหายไป
“ ร่างกฎหมายที่กล่าวมานี้เป็นวาระ 3 ซึ่งจะเป็นกฎหมายในโค้งสุดท้าย ที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำ ส่วนมากก็จะเป็นกฎหมายนโยบาย โดยคาดว่าจะมีการประชุมในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ที่จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดสุดท้าย ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาอย่างแน่นอน” เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าว
ส่วน ร่างพ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อที่ประชุมด้วยนั้น นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหารและตำรวจมาชี้แจง ซึ่งกฎหมายนี้ถูกบรรจุไว้ตั้งแต่สมัยพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขมาเรื่อยเพื่อให้กระทบสิทธิน้อยที่สุด ทั้งนี้การแจ้งการชุมนุมไม่ใช่การขออนุญาต และหน่วยงานที่จะฟันธงว่าชุมนุมได้หรือไม่ก็คือศาล