ข่าว

 กลยุทธ์ 8 ประการของ“ประธานเหมา”

กลยุทธ์ 8 ประการของ“ประธานเหมา”

15 เม.ย. 2554

จากการที่ผมได้มีโอกาสศึกษา “ภูมิปัญญา” ตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ “จีน” ทำให้มีความประทับใจกับแนวคิดและวิถีปฏิบัติของ “เหมา เจ๋อตุง” และทำให้เชื่อว่าหากได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าลงไปลึกๆ อาจมีหลากหลายประเด็นที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งแ

 “เหมาเจ๋อตุง" เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2436 ในตระกูลชาวนาเจ้าของที่ดิน จบการศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครู เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมือง ตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ผู้คนยากจน และสังคมเต็มไปด้วยความฉ้อฉลเอารัดเอาเปรียบ อีกทั้งยังถูกปราบปรามอย่างหนักจากนายพลเจียง ไคเชก หลังจากแสดงฝีไม้ลายมือในการรบหลายครั้งจนเป็นที่ประจักษ์ได้ขึ้นมาเป็น “ประธาน” คณะโปลิตบูโร

 ภายใต้การนำของ “เหมา เจ๋อตุง” พรรคคอมมิวนิสต์แห่งจีนชนะสงครามกลางเมืองจีน และได้ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492

 แนวความคิดและยุทธวิธีของ “เหมาเจ๋อตุง” 8 ประการ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ประกอบไปด้วย ประการที่ 1 หากใช้สันติวิธีสู้กับศัตรู ที่ติดอาวุธและดำเนินปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมนั้น เป็นความเพ้อฝันที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง มีแต่จะถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว จำเป็นที่จะต้องจับอาวุธขึ้นสู้แต่เพียงเท่านั้น จึงจะสามารถป้องกันตนเองและผลักดันให้ก้าวรุดหน้าไปสู่ชัยชนะ

 ประการที่ 2 แนวคิดชนบทล้อมเมือง เป็นแนวคิดที่ว่า จะแปรเปลี่ยนจากการเดินหน้าเพื่อเข้าตีเพื่อยึดเมืองใหญ่อย่างดันทุรัง “ถอย” หลังมุ่งเข้าสู่ชนบท ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การปฏิวัติของจีน

 ประการที่ 3 แนวคิดที่ว่าไม่ว่าคนเราจะเก่งสักเพียงใดก็ต้องอาศัยคนอื่นๆ ช่วยสนับสนุนค้ำจุน ดังที่คำกล่าวที่ว่า รั้วก็ต้องใช้สามเสาค้ำ คนเก่งก็ต้องใช้สามคนช่วย ช่างทำหนังเหม็นๆ สามคนก็สามารถรวมกันเป็น “ขงเบ้ง” ได้หนึ่งคน 

 ประการที่ 4 เห็นความสำคัญในเรื่องความเป็น “เอกภาพ” และมีแนวคิดที่ว่า “กองทัพ” และ “มวลชน” จะต้องมีแนวคิดและหลักการที่ไปในทิศทางเดียวกัน  

 ประการที่ 5 แนวคิดที่จะขยายกำลังอันที่ไม่มีที่สิ้นสุดของ “มวลชน” โดยนำกำลังกองทัพหลักประสานกับกองทัพท้องถิ่น กองทัพประจำการประสานกับกองทัพจรยุทธ์ (ทหารบ้าน) เพื่อทำสงครามประชาชน โดยมวลชนที่ติดอาวุธประสานเข้ากับมวลชนที่ไม่ได้ติดอาวุธ  

 ประการที่ 6 “เหมาเจ๋อตุง” มีแนวคิดในการรบที่น่าสนใจว่า ล่อข้าศึกให้ถลำลึก เมื่อเผชิญกับการรุกของข้าศึกที่มีกำลังเหนือกว่า เพื่อที่จะรักษากำลังของตนไว้ รอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเพื่อทำลายข้าศึกเมื่อสบโอกาส โดยดำเนินการ “ถอย” ก่อนแล้วจึงสร้างเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์แก่กองทัพแล้วจึงรอโจมตีในเวลาที่เหมาะสม  

 ประการที่ 7 รวมศูนย์กำลังทหาร เป็นกฎเกณฑ์มูลฐานที่ทำให้ “ทัพแดง” เอาชนะข้าศึกได้โดยการนำเอา ความด้อย สยบ ความเหนือ, จำนวนน้อย สยบ จำนวนมาก เพื่อทำลายข้าศึกทีละส่วน รวมทั้ง ยุทธศาสตร์ที่ใช้คือใช้ 1 เป็น 10 

 ประการที่ 8 แนวคิดที่จะทำการรบซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดในการรบ โดยใช้หลักที่ว่า “สำหรับคนแล้ว ทำ 10 นิ้วให้บาดเจ็บหลายนิ้วมิสู้ตัดนิ้วหนึ่งให้ขาด สำหรับข้าศึกการตี 10 กองพลให้แตกกระเจิงไม่สู้ทำลายล้าง 1 กองพล”

 แนวความคิดและยุทธวิธีของ “เหมาเจ๋อตุง” 8 ประการ ที่ผมได้กล่าวมาพอสังเขปนี้ได้ถูกนำมาใช้นับครั้งไม่ถ้วน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของการรวบรวม “จีน” ให้เป็นปึกแผ่น และผมเชื่อว่าเป็นรากฐานอันสำคัญทั้งทาง “วิสัยทัศน์” (VISIONARY) และ “กระบวนทัศน์” (MISSIONARY) ในการพัฒนา “จีน” ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันให้ตื่นฟื้นจากมังกรที่หลับใหลกลายเป็นพญามังกรที่บรรดาอภิมหาอำนาจต่างๆ ต้องเกรงใจ ในการที่สังคมไทยจะก้าวข้าม “วิกฤติ” ลองศึกษาแนวความคิดและยุทธวิธี 8 ประการ เอาไว้ก็ไม่เสียหลาย ไม่แน่นะครับอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะนำพาไปสู่ทางรอดก็เป็นได้ครับ

ภัทรพล เวทยสุภรณ์