
ผีแดงไร้รูนีย์ รับมือฟูแล่ม เชลซีชุดใหญ่ รอถล่มวีแกน
"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ดไร้ เวย์น รูนีย์ ติดแบน นัดรับมือ "เจ้าสัว" ฟูแล่ม ในศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 9 เม.ย. พร้อมส่ง ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นันเดซ คู่กับ ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ล่าตาข่าย หวังทำแต้มนี้ อาร์เซนอล 10 คะแนน ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินค
ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 9 เมษายนนี้ มีโปรแกรมฟาดแข้งทั้งหมด 7 คู่ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง แข่ง 31 นัด มี 66 แต้ม เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ทีมอันดับ 10 แข่ง 31 นัด มี 38 แต้ม เวลา 21.00 น.
เกมนี้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือเจ้าถิ่นที่ยังถูกแบน ไม่สามารถคุมเกมข้างสนามได้ ต้องลุ้นเอาชนะในเกมนี้ เพื่อทิ้งห่าง อาร์เซนอล เป็น 10 แต้ม และเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในบ้านฤดูกาลนี้ แต่เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้ เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวเก่งที่ติดโทษแบน รวมทั้งยังไม่มี โอเวน ฮาร์กรีฟส์, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, จอห์น โอเชีย และราฟาเอล ที่บาดเจ็บ
แต่จะได้ พอล สโคลส์ กับ จอนนี อีแวนส์ ที่พ้นโทษแบนกลับมา รวมทั้งนักเตะคนอื่นสามารถใช้งานได้อย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันยา วิดิช และไรอัน กิ๊กส์ ส่วนคู่หน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง "ชิชาริโต้" ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ กับ "เบิร์บ" ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ดาวซัลโวลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในเวลานี้ ที่จะได้กลับมายืนล่าตาข่ายเป็นตัวจริงอีกครั้ง
ฝั่งทีมเยือนของ มาร์ค ฮิวจ์ส ยังไม่มี ฟิลิปป์ เซนเดรอส รวมทั้งต้องเช็กความฟิตของ เดเมียน ดัฟฟ์ กองกลาง และบ็อบบี ซาโมรา กองหน้าร่างใหญ่ที่เพิ่งกลับมายิง 2 ประตูในเกมนัดก่อนที่เปิดบ้านชนะ แบล็คพูล 3-0 คาดว่าบรรดาแข้งหลักอย่าง มาร์ค ชวาร์เซอร์, เบรเด ฮันเกลันด์, แดนนี เมอร์ฟี, คลินท์ เดมป์ซีย์ และ มูสซา เดมเบเล น่าจะพร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงได้ตามปกติ สำหรับสถิติของทั้งสองทีมในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 35 เสมอ 14 ฟูแล่ม ชนะ 12 และแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม ในการเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 6 ฤดูกาลติด หนสุดท้ายที่แพ้ในปี 2003 ด้วยสกอร์ 1-3
ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมอันดับ 4 แข่ง 30 นัด มี 55 แต้ม เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "ลาติกส์" วีแกน ทีมบ๊วย แข่ง 31 นัด มี 31 แต้ม เริ่มเตะเวลา 21.00 น. นัดนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเจ้าถิ่นมีปัญหาแค่ไม่มี อเลกซ์ กองหลังคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นพร้อม ทั้ง ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, เดวิด หลุยส์, มิกกาแอล เอสเซียง และแฟรงค์ แลมพาร์ด เพียงแต่กองหน้าจะตัดสินใจใช้ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่ยังยิงประตูไม่ได้ลงเป็นตัวจริง ร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา และดิดิเยร์ ดร็อกบา หรือไม่
ขณะที่ วีแกน ของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ที่ 2 นัดหลังเก็บมาได้ 4 แต้ม ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บ และติดโทษแบน ใช้นักเตะหลัก ทั้ง อาลี อัล ฮับซี, มายเนอร์ ฟิเกอรัว, เบน วัตสัน, วิคเตอร์ โมเซส, ทอม เคลเวอร์ลีย์, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย และฮูโก โรดาเยกา ได้ทั้งหมด แต่สถิติเจอกันในลีก เชลซี ชนะ 9 เสมอ 1 วีแกน ชนะ 1 นัด รวมทั้งสองนัดที่ผ่านมา เชลซี ยิงไปถึง 14 ลูก ไม่เสียประตู โดยนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วเปิดบ้านถล่ม 8-0 และนัดที่ 2 ของต้นฤดูกาล บุกยำ 6-0
สำหรับ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ทีมอันดับ 5 แข่ง 30 นัด มี 50 แต้ม เปิดรังไวท์ ฮาร์ทเลน รับมือ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ทีมอันดับ 11 แข่ง 31 นัด มี 38 แต้ม เจ้าถิ่นของ แฮร์รี เร็ดแนปป์ เพิ่งแพ้ รีล มาดริด 0-4 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะไม่มี อลัน ฮัตตัน, เลดลีย์ คิง และยูเนส คาบูล ขณะที่ สตีเวน พีนาร์ ต้องเช็กความฟิต คาดว่ายังใช้นักเตะหลักอย่าง วิลเลียม กัลลาส, ไมเคิล ดอว์สัน, อารอน เลนนอน, ลูกา โมดริช, แกเรธ เบล, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ เจอร์เมน เดโฟ
ด้าน สโต๊ค ของโทนี พูลิส ไม่มี แดนนี ฮิกกินบอทแธม ที่เจ็บเข่าพัก 6 เดือน รวมทั้งยังจะไม่มี จอห์น คาริว, อับดุลลาเย ฟาย และมามาดี ซิดิเบ ที่บาดเจ็บ แต่น่าจะได้ โธมัส โซเรนเซน กลับมาเฝ้าเสา และยังมีนักเตะอย่าง เจอร์แมน เพนเนนท์, รอรี ดีแลป และแมทธิว เอเธอริงตัน อยู่ในทีม ส่วนกองหน้าคาดว่า โจนาธาน วอลเตอร์ส จะมายืนคู่กับ เคนวีน โจนส์
ส่วนโปรแกรมคู่อื่น เริ่มเตะ 18.45 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน (19) พบ เอฟเวอร์ตัน (7) เริ่มเตะเวลา 21.00 แบล็คเบิร์น (14) พบ เบอร์มิงแฮม (15), โบลตัน (8) พบ เวสต์แฮม (18), ซันเดอร์แลนด์ (12) พบ เวสต์บรอมวิช (13)